ร้อนใจ!ริโอกระวนกระวายหลังเห็นข่าวโด้เตรียมย้ายไปเรือ
ริโอ เฟอร์ดินานด์ ตำนานกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยว่าเขารู้สึกร้อนรนเหมือนกับแฟนบอล ตอนเห็นข่าวว่า คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กำลังจะย้ายไปเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้
2-3 วันก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวลือว่า CR7 อยากย้ายออกจากยูเวนตุส ซึ่งทีมเดียวที่มีข่าวกับแข้งวัย 36 ปี ณ เวลานั้นคือแมนเชสเตอร์ ซิตี้
อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ที่ผ่านมาสถานการณ์พลิกแบบสุดเหวี่ยง และเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมเก่าของนักเตะที่ออกแถลงการณ์ว่าได้ตกลงกับ ม้าลาย เพื่อซื้อตัว โรนัลโด้ กลับถิ่น
“ผมโทรหาเขาทันที” เฟอร์ดินานด์เผยผ่านช่องยูทูปของเขา “ผมถามเขาว่า เกิดอะไรขึ้น บอกฉันหน่อยนายโกหกใช่ไหม”
“ในตอนนั้น เราได้เห็นข่าวกันตามหน้าสื่อ และผมไม่คิดว่าซิตี้ยื่นข้อเสนอไปแล้วนะ แต่มีการพูดคุยเกิดขึ้นและซิตี้ก็ยกมือแสดงความสนใจ
“คุณจะนั่งอยู่เฉย ๆ แล้วคิดว่า มันไม่เกิดขึ้นหรอก ไม่ได้ มันไม่ควันหรอกถ้าไม่มีเชื้อไฟ ผมบอกโรนัลโด้ บอกฉันสิว่านายจะไม่ย้ายไปที่นั่น บอกฉันมาเลยนะ ฉันรู้ว่านายไม่ไปหรอก นี่ผมมีแช็ตอยู่ในโทรศัพท์เนี่ย ผมพยายามให้อดีตนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด พิมพ์ไปว่า ห้าม ห้าม ห้าม ห้าม ในกลุ่ม
“ผมก็เหมือนกับแฟนบอลนั่นละ เหมือนเป๊ะเลย ผมโทรหาเขา คุยได้เปล่า ฉันขอคุยกับนายด่วน ๆ ผมไม่อยากให้ลูก ๆ ของผมต้องมาเห็น โรนัลโด้ วิ่งลงสนามด้วยชุดของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
“ผมคิดว่าเรื่องหลัก ๆ ในตอนนั้นคือเขากำลังสับสน คือหลังจากตระหนกตอนแรก ก็ไม่มีจุดไหนที่หัวใจของผมเต้นเร็วในระดับนั้นอีกแล้ว”
เฟอร์ดินานด์ ได้ชี้แจงถึงเรื่องความคิดของ โรนัลโด้ ที่จะย้ายไปเล่นให้แมนฯ ซิตี้
“นักเตะอ่ะ เคารพและเข้าใจแฟนบอลนะ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นเรื่องธุรกิจ นักเตะจำเป็นต้องคิดเรื่องธุรกิจในสถานการณ์แบบนี้
“สุดท้ายถ้า ซิตี้ ยื่นข้อเสนอให้ โรนัลโด้ มันก็ต้องถูกพิจารณา นั่นคือความจริง
“ถ้าพวกเขาเป็นสโมสรเดียวที่ยื่นซื้อ โรนัลโด้ ผมในฐานะอดีตนักเตะยูไนเต็ดและเพื่อนร่วมทีมของเขา ผมก็เคารพการตัดสินใจ
“ผมไม่ชอบหรอก ผมคงจะเป็นบ้าเหมือนแฟนบอลทุกคน แต่สุดท้ายแล้วคุณต้องการให้เขาทำอะไรล่ะ
“ความแตกต่างคือถ้ายูไนเต็ดยื่นข้อเสนอเหมือนซิตี้ และเขาตัดสินใจย้ายไปซิตี้ นั่นคือตอนที่คุณมีสิทธิ์ที่จะโกรธเขา
“ผมรู้ว่าถ้ายูไนเต็ดมีชื่อเข้ามาพูดคุยกับ โรนัลโด้ แล้วมีทีมอื่น ๆ นั่งอยู่ด้วย หัวของเขาไม่หันไปไหนหรอก เขาไม่ใช่คนแบบนั้น เขาเข้าใจและเคารพมรดกของเขา”