เผยเหตุ เหี่ยว ไม่ปลื้ม โบห์ลี่ย์
อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือ อาร์เซน่อล ไม่เห็นด้วยที่ ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ เจ้าของ เชลซี แทรกแซงเข้าห้องแต่งตัวไปคุยกับนักเตะโดยตรง และบอกว่าหากตนเป็นผู้จัดการทีม จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
กลางเดือนก่อนหลังจบเกม พรีเมียร์ ลีก ซึ่ง สิงห์บลูส์ แพ้คาบ้าน ไบรจ์ตัน 2-1 โบห์ลี่ย์ ทนไม่ไหวบุกเข้าห้องแต่งตัวเพื่อพูดคุยกับนักเตะโดยตรง
ดูเหมือนว่าคำพูดของผู้บริหารชาวอเมริกันจะไม่เป็นผลนัก เมื่อเกมถัดมา เชลซี โดน เรอัล มาดริด บุกย้ำแค้นถึงสแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-0 ตกรอบ แชมป์เปี้ยนส์ ลีก
อย่างไรก็ตาม โบห์ลี่ย์ และ เบห์ดาด เอกบาลี่ หนึ่งในผู้บริหาร ยังคงเข้าห้องแต่งตัวนักเตะอีกครั้งหลังเกมพ่าย “ราชันชุดขาว”
แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา ขณะที่ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า นายด่านมือหนึ่งเผยอีกว่า โบห์ลี่ย์ ทำแบบนี้ทุกนัด แต่ เวนเกอร์ มีมุมมองที่ต่างออกไป
“เรื่องนึงที่ผมชัดเจนมาตลอด คือผมจะไม่ยอมให้เจ้าของทีมทำแบบนั้น” อดีตนายใหญ่ชาวฝรั่งเศส กล่าวกับช่องกีฬาทีวีเจ้าหนึ่ง
“ผมใส่เงื่อนไขข้อนี้ไว้ในสัญญาเสมอ และผมขอแนะนำให้เหล่าโค้ชรุ่นใหม่ทำแบบนั้น”
“คุณต้องเขียนในสัญญาอย่างชัดเจน ว่าคุณคือคนรับผิดชอบจัดการทีมแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีใครสามารถซื้อผู้เล่นหรือแทรกแซงการทำทีมโดยที่คุณไม่ยินยอม”
พิธีกรยิงคำถามเพิ่มเติมถึงความเป็นไปได้ที่ โบห์ลี่ย์ จะสามารถปลุกใจลูกทีมได้สำเร็จ
“ผมไม่เชื่อว่าเจ้าของทีมจะปลุกใจให้ทีมคัมแบ็คได้” เวนเกอร์ ให้คำตอบ
“มีหลายครั้งที่ประธานสโมสรเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อทำแบบนั้น เขาไม่ได้มีการพูดที่ดีเลย แต่สุดท้ายทีมชนะ ซึ่งทำให้ประธานคนนั้นคิดว่าทีมชนะเพราะเขาพูดปลุกใจทีม”
“มันไม่ได้เป็นเรื่องของการพูดปลุกใจของประธานสโมสรเสมอไป และส่วนใหญ่ทีมชนะเพราะมีคุณภาพอยู่แล้วต่างหาก”
นอกจากตกรอบบอลยุโรปแล้ว สถานการณ์ของ เชลซี ในลีกก็ไม่สู้ดีนักรั้งอันดับ 12 ของตาราง
“ผมกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของ เชลซี” เวนเกอร์ กล่าวเพิ่ม
“ประธานสโมสรใหม่เข้ามาและลงทุนเยอะมากก็จริง แต่หากมันไม่ใช่การลงทุนที่ดี คุณจะเจอปัญหาใหญ่ในอนาคต”
“เชลซี ไม่ได้มีการลงทุนที่ดีเลย ซึ่งนั่นคือปัญหาพวกเขาในตอนนี้ เชลซี ยังมีจุดอ่อนแบบเดิมคือยิงประตูไม่มากพอ ถึงแม้จะครองบอลได้เยอะก็ตาม”
“ผมเชื่อว่าการเซ็นสัญญาผู้เล่นเป็นเวลา 8 คือคือเรื่องดีสำหรับการทำตามกฎการเงิน แต่หากผู้เล่นคนนั้นไม่ใช่นักเตะที่ใช่ คุณต้องจ่ายค่าเหนื่อยเขาเป็นเวลา 8 ปี ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากเช่นกัน”