5 สิ่งที่เกิดขึ้นหลัง เรือ โดน ยูงทอง ปราบ 2-1

1.ยังเชื่อว่าแชมป์ยังคงอยู่ในมือ

การแพ้ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเกมนี้นั่นหมายความว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่อยู่อันดับ 2 สามารถลดช่องว่างให้เหลือ 8 คะแนนได้ ถ้าหากพวกเขาเก็บสามแต้มเต็มจาก 2 นัดที่แข่งน้อยกว่าทั้งกับท็อตแนมและเบิร์นลีย์ อย่างไรก็ตามเรือใบสีฟ้ายังเชื่อว่าแชมป์ลีกฤดูกาลนี้ของพวกเขาจะไม่หนีไปไหน ซึ่งซิตี้ต้องการอีกแค่ 11 แต้มจาก 6 เกมที่เหลือพวกเขาก็จะได้แชมป์ลีกสมัยที่ 3 ใน 4 ฤดูกาลหลังสุดทันที

 

2.ผลของการจัดทีม

เกมนี้เป๊ป กวาดิโอล่าเปลี่ยนผู้เล่นถึง 7 คน จากเกมที่เอาชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อวันอังคาร ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าจังหวะต่าง ๆและการเข้าทำไม่ค่อยไล่ลื่นเท่าที่ควร โดยเชื่อว่ามีผลไม่มากก็น้อยกับการความพ่ายแพ้ในนัดนี้ และนายใหญ่ชาวสแปนิชมีส่วนต้องรับผิดชอบกับการจัดทีมลงสนามในวันนี้

 

3.เสียเชิงให้กับน้องใหม่

แมนเชสเตอร์ซิตี้ประสบความพ่ายแพ้ในบ้านเป็นครั้งแรกกับทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาบนลีกสูงสุด หลังจากไม่แพ้ใครมา 42 เกมนับตั้งแต่แพ้เรดดิ้ง 2-0 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2007

 

4.มีไม่กี่ทีมที่เอาชนะไม่ได้

จากทั้งหมด 77 ทีม ที่เป๊ป กวาดิโอล่าคุมทีมเผชิญหน้ามาลีดส์เป็น 1 ใน 2 ทีมที่เขาไม่สามารถเอาชนะได้ต่อจากมิดเดิลสโบรห์

 

5.คุมเกมได้หมดแต่ทำอะไรไม่ได้

ราฮีม สเตอร์ลิงที่ได้ลงเป็นตัวจริงในเกมนี้หลังได้พักเมื่อเกมกลางสัปดาห์ ทว่าเขากลับพลาดโอกาสทองในการทำประตูไป 2-3 ครั้งให้กับซิตี้ ส่วนในช่วงครึ่งหลัง เรือใบสีฟ้าเน้นเกมรุกมากกว่าเกมรับ หลังทีมเยือนเหลือ 10 คน โดยดันขึ้นหน้าไปหมดทั้งทีม ในพื้นที่ของฝั่งตรงข้ามในระยะ 30 หลา แต่ทว่าก็ทำอะไรไม่ได้ จนโดนลงโทษและพ่ายคาบ้านในที่สุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *