คล็อปป์บอกเบิร์นลีย์เล่นโหดเกิน-ร้องเปาควรเซฟนักเตะมากกว่านี้
เยอร์เก้น คลอปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ไม่พอใจสุดๆ เบิร์นลีย์ เล่นบอลหนักเหมือนมวยปล้ำ วอนพรีเมียร์ลีกต้องปกป้องนักเตะมากกว่านี้ หลังเกมทัพหงส์แดงเปิดบ้านเก็บชัยชนะ 2-0 เกมคู่หัวค่ำวันเสาร์
บอสใหญ่ทีมหงส์แดงไม่สบอารมณ์อย่างมากกับวิธีการเข้าปะทะของ 2 กองกองหน้าเบิร์นลีย์ แอชลีย์ บาร์นส์ และคริส วู้ด ใส่คู่เซ็นเตอร์แบ็กของเขา เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และโจเอล มาติป ที่บ่อยครั้งที่ยืนค้ำไม่ยอมขึ้นแย่งลูกโหม่งกลางอาการ ซึ่งถือเป็นการเล่นที่อันตราย
“คุณต้องพร้อมเสมอสำหรับการต่อสู้ที่เหมาะสม แต่วันนี้มันเป็นเกมที่ยากจริงๆ คุณต้องดูการเข้าปะทะของบาร์นส์และวู้ดใส่เวอร์กิล และโจเอล”
“ผมไม่แน่ใจ 100 เปอร์เซนต์ว่าเรากำลังเดินทางถูกทางกับการตัดสินใจแบบนี้หรือไม่ มันรู้สึกเหมือนเราย้อนหลังกลับไป 10 หรือ 15 ปีก่อนเมื่อเราพูดว่า นี่คือฟุตบอลที่เราอยากเห็น มันอันตรายเกินไป”
“คุณไม่สามารถเข้าถึงสถานการณ์ได้จริงๆ มันยากมาก กฎคือสิ่งที่เป็นอยู่ แต่ประเด็นคือคุณไม่สามารถป้องกันสถานการณ์ เราต้องการรอดพ้นจากสถานการณ์”
พรีเมียร์ลีกปรับกฎการตัดสินใหม่ให้เกมลื่นไหลขึ้น ใช้นกหวีดน้อยลง มีการแทรกแซงจาก VAR น้อยลง หลังโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่คลอปป์ ก็ยังรู้สึกว่า ทีมของเขาได้รับการป้องกันน้อยเกินไป
“ผมคิดว่าทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อตอนที่เราเปลี่ยนกฎเมื่อ 20 ปีที่แล้วเพื่อปกป้องผู้เล่นในสนาม ผู้เล่นไม่สามารถสัมผัสกันได้ในเขตโทษและไม่มีการได้เปรียบกันและกันเวลาเล่นลูกกลางอากาศ”
“ผมไม่คิดว่ามันถูกต้องแต่ผมไม่สามารถตัดสินสิ่งเหล่านี้ได้ ผมได้ยินว่าเราต้องการปล่อยให้เกมลื่นไหล แต่เรามักเจอสถานการณ์แบบประตูที่สองของนัดเบรนท์ฟอร์ดชนะอาร์เซนอล 2-0 ประตูนั้นต้องฟาวล์ไปแล้ว คุณไม่สามารถเอาแขนตัวเองไปล็อคผู้รักษาประตูแล้วบอกว่ามันคือฟุตบอลได้หรอก”
“ก็โอเค เราต้องชินกันมัน แต่เราอาจต้องเจอมันอีกเป็นครั้งที่ 2 ที่ 3, มีข้อความหนึ่งบอกว่า ปล่อยให้เกมลื่นไหล และตอนนี้ไม่มีใครรู้ความหมายของมัน ก็โอเค ก็โอเค จะไม่มีการฟาวล์อีกต่อไป”
“ผมชอบการตัดสินทั้งหมดที่สนับสนุนเกมรุก ก็โอเค ชอบกฎล้ำหน้าตอนนี้ ประโยชน์ที่เคยมีปัญหากับกองหน้า แต่เราก็ต้องไม่ลืมที่จะปกป้องนักเตะด้วย”
“เราไม่สามารถปฏิเสธเรื่องนั้นได้และพูดว่า นั่นคือการเข้าปะทะ ผมชอบดูมัน ไปดูมวยปล้ำถ้าคุณชอบเรื่องพวกนี้”
ก่อนที่คลอปป์ จะทิ้งท้ายว่า “ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เป็นเรื่องที่ดี”