ปีศาจแห่งการพังประตู! “ฮาแลนด์” ทุบสถิติตลอดกาล “เชียเรอร์” ซัดครบ 100 ตุงเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
BK8 – ในโลกของฟุตบอล มีสถิติบางอย่างที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คนรุ่นหลังได้แค่ “มอง” แต่สำหรับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ สถิติมีไว้เพื่อ “ทำลาย” – แทงบอล
ค่ำคืนวันอังคารที่ผ่านมา ณ คราเวน คอทเทจ ไม่ใช่แค่ค่ำคืนแห่งความระทึกขวัญที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปเฉือนชนะ ฟูแล่ม แบบดุเดือดเลือดพล่าน 5-4 แต่มันคือค่ำคืนแห่งประวัติศาสตร์ เมื่อดาวยิงชาวนอร์เวย์วัย 25 ปี จารึกชื่อของตัวเองลงในสมุดบันทึกของพรีเมียร์ลีก ด้วยการยิงประตูที่ 100 ของตัวเองได้สำเร็จ
เร็วกว่าตำนาน สิ่งที่ทำให้โลกฟุตบอลต้องตะลึง คือ “ความเร็ว” ในการไปถึงจุดนั้น ตำนานอย่าง อลัน เชียเรอร์ เคยทำสถิติไว้ที่ 124 นัด ซึ่งถือว่าเร็วมากแล้ว แต่ ฮาแลนด์ ใช้เวลาเพียง 111 นัด เท่านั้นในการก้าวข้ามกำแพง 100 ประตู เขาทำลายสถิติเดิมลงแบบราบคาบ โดยใช้เวลาน้อยกว่าถึง 13 เกม
จบสิ้นมินิ-วิกฤต ก่อนเกมนี้ มีเสียงวิจารณ์เล็กน้อยเมื่อ ฮาแลนด์ “เท้าบอด” มา 3 นัดติดต่อกัน (แพ้นิวคาสเซิล, แพ้เลเวอร์คูเซ่น และชนะลีดส์) สำหรับกองหน้าคนอื่น นี่คือเรื่องปกติ แต่สำหรับเขา มันคือ “วิกฤต” แต่ในเกมกับฟูแล่ม เขาตอบโต้ด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีซ: 1 ประตู (จากการชาร์จลูกเปิดของ เฌเรมี่ โดกู), 2 แอสซิสต์ และชนเสาอีก 2 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าเมื่อเขา “หิว” ไม่มีใครหยุดเขาได้
คำสารภาพของปีศาจ หลังจบเกม ฮาแลนด์ ให้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจตามสไตล์ว่า:
“คลับ 100 ประตูคือเรื่องใหญ่มาก การทำได้เร็วขนาดนี้มันน่าทึ่ง… ผมพูดมาหลายครั้งแล้วว่า กองหน้าของซิตี้ต้องยิงประตูให้เยอะ นั่นคืองานของผม และผมก็ทำมันได้ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ!”
ทางด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่เรือใบสีฟ้า ถึงกับเอ่ยปากชมว่า “เหลือเชื่อ… วันนี้เขาสุดยอดมาก หวังว่าเขาจะยังหิวโหยแบบนี้ต่อไป” ในขณะที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เพื่อนร่วมทีมยกย่องว่า หากฮาแลนด์ยังรักษามาตรฐานนี้ไว้ เขาอาจก้าวขึ้นเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกได้เลยทีเดียว
เป้าหมายต่อไป: 260 ประตู? แม้ตัวเลข 260 ประตูของ อลัน เชียเรอร์ จะยังดูห่างไกล แต่ด้วยสัญญาที่ยาวถึงปี 2034 และสถิติการยิงประตูที่โหดเหี้ยมขนาดนี้ (ฤดูกาลนี้กดไปแล้ว 20 ลูกจาก 19 นัดรวมทุกรายการ) คำถามอาจไม่ใช่ “เขาจะทำได้ไหม” แต่เป็น “เขาจะทำได้เมื่อไหร่” มากกว่า
สำหรับแฟนบอลทีมอื่น (รวมถึงลิเวอร์พูลอย่างเรา) การเห็นฟอร์มแบบนี้ของฮาแลนด์ อาจเป็นเรื่องน่าหวาดหวั่น แต่ในฐานะคนรักฟุตบอล เราต้องยอมรับว่าเรากำลังอยู่ในยุคสมัยของ “ปรากฏการณ์” ที่หาดูได้ยากยิ่งจริงๆ
