ฟาน ไดจ์ค เตือนสติเพื่อนรัก! “ซาลาห์” ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือใคร ย้ำชัด “ถ้าฟอร์มตกก็นั่งยาว” แม้แต่กัปตันก็ไม่เว้น
BK8 – ในโลกฟุตบอล ไม่มีใครยิ่งใหญ่เกินสโมสร และไม่มีใครยืนค้ำฟ้าด้วยบารมีเก่า… นั่นคือสัจธรรมที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีมลิเวอร์พูล กำลังพยายามสื่อสารท่ามกลางมรสุมที่พัดผ่านแอนฟิลด์ในเวลานี้ – แทงบอล
การที่ อาร์เน่ สล็อต ตัดสินใจดรอป โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นตัวสำรองถึง 2 นัดติดต่อกัน (ไม่ได้ลงในเกมชนะเวสต์แฮม และลงมาครึ่งหลังในเกมเสมอซันเดอร์แลนด์) ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว แต่สำหรับ ฟาน ไดจ์ค เขามองว่านี่คือสัญญาณที่ถูกต้องที่บอกว่า “ทุกคนต้องพิสูจน์ตัวเอง”
ไม่มีใครมี “เครดิตแบบไม่จำกัด” (Unlimited Credit) ฟาน ไดจ์ค ให้สัมภาษณ์ปกป้องการตัดสินใจของกุนซือและเตือนสติเพื่อนร่วมทีมวัย 33 ปีว่า:
“มันเป็นแบบนั้นเสมอมา (ไม่มีใครแตะต้องไม่ได้) มันไม่ใช่ว่าคุณจะมีเครดิตแบบไม่จำกัด ทุกคนต้องโชว์ฟอร์มให้ได้… โมทำแบบนั้นมาตลอด แต่ผู้จัดการทีมตัดสินใจแบบนั้นในช่วงสองเกมหลังสุด เราทุกคนต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสโมสร”
ความผิดหวังคือเรื่องปกติ เมื่อถูกถามถึงปฏิกิริยาของซาลาห์ กัปตันทีมชาวดัตช์ตอบอย่างตรงไปตรงมา
“เขาผิดหวังอย่างที่ควรจะเป็น… ถ้าคุณไม่ผิดหวังเมื่อไม่ได้เล่น 2 นัดติด นั่นแหละคือปัญหา แต่ผมไม่กังวลหรอก ผมต้องการเขาในฐานะผู้นำ และผมมั่นใจว่าเขาจะกลับมาเป็นส่วนสำคัญของทีม เพราะเขาคือนักเตะที่มหัศจรรย์”
กระจกที่ส่องสะท้อนตัวเอง คำพูดของ ฟาน ไดจ์ค ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ซาลาห์เพียงคนเดียว แต่มันสะท้อนกลับมาที่ตัวเขาเองด้วย ในเกมล่าสุดที่เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 ฟาน ไดจ์ค คือคนที่ทำพลาดเสียบอลจนนำไปสู่การเสียประตู
สถานการณ์ของลิเวอร์พูลในตอนนี้ คือภาพสะท้อนของ “การผลัดใบ” ที่เจ็บปวด เมื่อเหล่า “Old Guard” หรือขุนพลยุคเกรียงไกรอย่าง ซาลาห์, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน และ อลิสซอน ต่างเผชิญกับกราฟผลงานที่เริ่มตกลง พร้อมๆ กับแรงกดดันจากการเข้ามาของผู้เล่นใหม่
คำพูดของกัปตันในวันนี้ คือการยอมรับความจริงว่า อดีตที่หอมหวานช่วยอะไรไม่ได้ในสนามแข่ง… มีเพียงฟอร์มการเล่นในปัจจุบันเท่านั้นที่จะการันตีตำแหน่งตัวจริง ไม่ว่าคุณจะชื่อ ซาลาห์ หรือ ฟาน ไดจ์ค ก็ตาม
