ศิษย์ลอกการบ้านครู? เจาะลึกแท็กติก ‘เป๊ป-อาร์เตต้า’ ที่เหมือนกันจนน่าทึ่ง หรือนี่คือวิวัฒนาการของพรีเมียร์ลีก
BK8 – ในขณะที่ศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล กำลังจะเปิดฉากขึ้นในวันอาทิตย์นี้ ประเด็นที่น่าสนใจนอกเหนือจากผลการแข่งขันในสนาม คือการเผชิญหน้ากันของสองกุนซือที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น “อาจารย์-ลูกศิษย์” อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ มิเกล อาร์เตต้า ซึ่งสไตล์การทำทีมของทั้งคู่ในปัจจุบัน ดูเหมือนจะ “ลอกการบ้าน” กันมาจนแทบจะแยกไม่ออก แต่คำถามที่แท้จริงคือ นี่คือการลอกเลียนแบบ หรือคือการปรับตัวเพื่ออยู่รอดในลีกที่โหดหินที่สุดในโลก?
ข้อกล่าวหา “อาร์เตต้า เดอะ ก็อปปี้แคท”
ภาพจำของแฟนบอลหลายคนคือ อาร์เตต้า คือผู้เจริญรอยตามปรัชญาของเป๊ปอย่างแท้จริง หลักฐานคือการเซ็นสัญญากับอดีตนักเตะซิตี้อย่าง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ กาเบรียล เฆซุส, การใช้แท็กติก Inverted Full-back, การยืนแผงหลัง 4 คนด้วยเซ็นเตอร์แบ็กทั้งหมด หรือแม้กระทั่งการทุ่มเงินคว้ากองหน้าตัวใหญ่อย่าง วิคตอร์ เยอเกเรช ซึ่งดูคล้ายกับการที่ซิตี้มี เออร์ลิง ฮาแลนด์ จนหลายคนอดคิดไม่ได้ว่านี่คือการเดินตามรอยเท้าของอาจารย์แบบก้าวต่อก้าว
วิวัฒนาการของสองจอมแท็กติก
อย่างไรก็ตาม หากมองลึกลงไปในรายละเอียด การกล่าวหาว่าอาร์เตต้าเป็นเพียง “นักลอกเลียนแบบ” อาจเป็นการมองที่ผิวเผินเกินไป อาร์เตต้าเองก็มีอิทธิพลจากกุนซือคนอื่น ๆ เช่น เดวิด มอยส์ ที่เขาเคยร่วมงานด้วยสมัยเป็นนักเตะ และที่สำคัญคือปรัชญาการทำทีมของเขาในช่วงหลังเริ่มมีความแตกต่างจากเป๊ปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการสร้างทีมให้เป็นทีมที่เล่นเกมรับได้ดีที่สุดในยุโรป และบางครั้งก็ถูกวิจารณ์ว่าเล่นอย่างระมัดระวังเกินไปในเกมใหญ่ ซึ่งสวนทางกับภาพลักษณ์ฟุตบอลเกมรุกของเป๊ป
ในทางกลับกัน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เองก็ไม่ได้ยึดติดกับปรัชญา “Tiki-Taka” แบบดั้งเดิมอีกต่อไป การมาถึงของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ คือการยอมรับในพลังของกองหน้าตัวเป้าแบบคลาสสิก การเซ็นสัญญากับ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูที่ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องการใช้เท้า ก็แสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
บทสรุป: ไม่ใช่การลอกเลียน แต่คือ “การปรับตัว”
ความจริงก็คือ พรีเมียร์ลีกในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยความท้าทายทางแท็กติกที่หลากหลาย การมาถึงของกุนซืออย่าง โรแบร์โต้ เด แซร์บี้, เอ็ดดี้ ฮาว หรือ อันโดนี่ อิราโอล่า ได้เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของลีกไปโดยสิ้นเชิง ฟุตบอลสมัยใหม่ต้องการความยืดหยุ่น, ความแข็งแกร่งทางร่างกาย และความเฉียบคมในการเปลี่ยนจากรับเป็นรุก ซึ่งบังคับให้ทั้ง เป๊ป และ อาร์เตต้า ต้องวิวัฒนาการแท็กติกของตัวเองเพื่อความอยู่รอดและไล่ล่าความสำเร็จ
สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่การ “ลอกการบ้าน” ของศิษย์ต่อครู แต่เป็น “วิวัฒนาการร่วม” ของสองสุดยอดกุนซือที่ต่างก็เรียนรู้และปรับตัวเข้ากับความท้าทายของลีกที่ดีที่สุดในโลก และเกมในวันอาทิตย์นี้ จะเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุดว่า ใครกันแน่ที่ปรับตัวได้ดีกว่ากัน – แทงบอล
