เมื่อ ‘เปโดร เนโต้’ สลัดคราบจอมลากเลื้อย สู่ “อาวุธ” ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม

BK8thai – หากจะอธิบายถึงความยอดเยี่ยมของ เปโดร เนโต้ อดีตโค้ชของเขาที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน กลับไม่ได้นึกถึงประตูที่เขายิงได้ แต่นึกถึง “เกมที่เขาเล่นไม่จบ” – แทงบอล

“ผมจำเกมกับ นิวคาสเซิล ได้” ฌอน เดอร์รี่ อดีตสตาฟฟ์โค้ชของ วูล์ฟส์ รำลึก “ในช่วงเวลาก่อนที่เขาจะเจ็บแฮมสตริง เขาเล่นได้แบบ… ไม่น่าเชื่อจริงๆ มันคือคนละระดับเลย”

ณ วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2025 ในขณะที่ เชลซี กำลังจะเปิดบ้านต้อนรับการกลับมาเยือนของ วูล์ฟส์ ทีมเก่าของเขา ปีกชาวโปรตุเกสวัย 25 ปีผู้นี้ ไม่ใช่ “ดาวรุ่งจอมเลื้อย” คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาได้ “วิวัฒนาการ” ไปสู่การเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบและอันตรายยิ่งขึ้นภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า

การเปลี่ยนแปลงที่ เชลซี การย้ายทีมด้วยค่าตัว 60 ล้านยูโร เมื่อซัมเมอร์ปี 2024 อาจเป็นความเสี่ยง เมื่อพิจารณาจากประวัติอาการบาดเจ็บที่น่ากังวลของเขา (ทั้งเข่า, ข้อเท้า และ แฮมสตริง) แต่การปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นที่ เชลซี ดูเหมือนจะเป็น “คำตอบ” ที่สมบูรณ์แบบ

“เขาไม่ต้องฝืนตัวเองในการระเบิดพลังวิ่ง 10-12 ครั้งต่อเกมเหมือนที่เคยทำกับ วูล์ฟส์ อีกต่อไป” เดอร์รี่วิเคราะห์ “การที่ เชลซี เป็นทีมที่เน้นการครองบอลและเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายอย่างเป็นระบบ มันช่วย เปโดร ได้มาก ทั้งในแง่ของร่างกายและความเข้าใจในเกม”

สถิติที่เปลี่ยนไป “Player Pizza Chart” (กราฟวิเคราะห์สไตล์การเล่น) แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างชัดเจน:

• สมัยอยู่ วูล์ฟส์: เขาคือ “เดอะ แบก” ผู้นำในการ “สร้างสรรค์เกม” (91/99) และ “การลากบอลขึ้นหน้า” (89/99)
• สมัยอยู่ เชลซี: บทบาทของเขาเปลี่ยนไป เขา “เลี้ยงบอลน้อยลง” (42/99) แต่ “การรับบอลในพื้นที่สุดท้าย” (83/99) และ “การสร้างความอันตรายในกรอบเขตโทษ” (49/99) กลับพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าทึ่ง

นี่คือบทพิสูจน์ว่า เนโต้ ได้เปลี่ยนจากการเป็น “ตัวเร่งเกม” มาเป็น “ตัวจบสกอร์” ที่เฉียบคมมากขึ้น (11 ประตู 10 แอสซิสต์ จาก 65 นัดกับ เชลซี เทียบกับ 14 ประตู 21 แอสซิสต์ จาก 135 นัดกับ วูล์ฟส์)

ผู้นำคนใหม่ในห้องแต่งตัว นอกเหนือจากฝีเท้าในสนาม สิ่งที่ เนโต้ นำมาสู่ทีมคือ “พลังงานบวก” และ “ความเป็นผู้นำ” “เขาคือชายหนุ่มที่เปี่ยมด้วยพลังงานและดึงดูดผู้คนเข้าหา” เดอร์รี่กล่าว “เขาเป็นคนตลกและมีอารมณ์ขัน” เอียน เบิร์ชนอลล์ อดีตโค้ชอีกคนเสริม “แต่เขาก็รู้ว่าเวลาไหนควรเล่น เวลาไหนควรจริงจัง”

ในฐานะหนึ่งในผู้เล่นแนวรุกที่มีประสบการณ์มากที่สุดในทีม (แม้จะอายุเพียง 25) เขากำลังกลายเป็น “พี่ใหญ่” ให้กับดาวรุ่งอย่าง เอสเตเวา (18), การ์นาโช่ (21) และ บายนู-กิตเทนส์ (21)

“ผมคิดว่าเขาสามารถรับผิดชอบในฐานะผู้นำในห้องแต่งตัวได้” เบิร์ชนอลล์กล่าว “เขาคือคนที่มุ่งมั่นมากในวันแข่งขัน เขารู้ว่าเวลาล้อเล่นมันจบลงแล้ว และงานที่แท้จริงได้เริ่มต้นขึ้น”

การกลับมาเผชิญหน้ากับทีมเก่าในค่ำคืนนี้ จึงเป็นการกลับมาของ เปโดร เนโต้ ในเวอร์ชั่นที่ “ดีกว่าเดิม” เขาคือบทพิสูจน์ของการทำงานหนัก, การปรับตัว และความมุ่งมั่นที่ไม่เคยยอมแพ้ต่ออาการบาดเจ็บ และอย่างที่ เดอร์รี่ กล่าวไว้… “ที่ เชลซี ผมคิดว่าเขากำลังแสดงให้เห็นจริงๆ ว่าเขาสามารถก้าวไปสู่จุดไหนได้บ้าง”