ครบ 1 ปี “รูเบน อโมริม” ที่แมนฯ ยูไนเต็ด: ถอดรหัส “กวีสังหาร” ผู้วางระเบิดห้องแต่งตัว และสถิติที่สวนทางศรัทธา

BK8 – 11 พฤศจิกายน… ครบรอบ 1 ปีพอดิบพอดี ที่ รูเบน อโมริม ก้าวเท้าสู่ แคร์ริงตัน ในฐานะ “ความหวังใหม่” ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – แทงบอล

12 เดือนที่ผ่านมา คือรถไฟเหาะที่แท้จริง มีทั้งจุดต่ำสุด, จุดสูงสุดประปราย และ “แสงสว่าง” ที่เพิ่งริบหรี่ขึ้นมา… แต่หากจะเข้าใจสิ่งที่เขาทำ เราต้องย้อนกลับไปดู “ซากปรักหักพัง” ที่เขาได้รับสืบทอดมา

มรดกที่เขาได้รับ: ห้องแต่งตัวที่แตกสลาย

มีเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่เคยถูกรายงานมาก่อน… ในห้องแต่งตัวหลังเกม ยูโรป้า ลีก ที่ ยูไนเต็ด บุกเสมอ ปอร์โต้ 3-3 (3 ต.ค. ปีที่แล้ว) ซึ่ง เอริค เทน ฮาก ยังคงคุมทีม

เทน ฮาก “เดือดดาล” อย่างหนักที่ทีมปล่อยให้สกอร์นำ 2-0 หลุดมือ ก่อนที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะมายิงตีเสมอทดเจ็บ… หลังเกม กุนซือชาวดัตช์ “สวด” ลูกทีมชุดใหญ่ในอุโมงค์ของ เอสตาดิโอ โด ดราเกา เรื่อง “ทัศนคติ” และ “วินัย”

เมื่อเขาสวดเสร็จ… “กลุ่มผู้เล่นซีเนียร์” นำโดย บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ลุกขึ้นยืน และ “ขอร้อง” ให้ เทน ฮาก และสตาฟฟ์โค้ช “ออกจากห้องแต่งตัวไป” เพื่อให้ผู้เล่นได้เคลียร์กันเอง

เรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก… แต่บรรยากาศที่ ปอร์โต้ แตกต่างออกไป แหล่งข่าวระบุว่า ผู้เล่นหลายคนไม่พอใจ “น้ำเสียง” ของ เทน ฮาก หนึ่งในนั้นคือ ดิโอโก้ ดาโลต์ ที่ลุกขึ้นพูดด้วยถ้อยคำรุนแรง ปลุกใจเพื่อนร่วมทีมว่า “ไม่ว่าใครจะรู้สึกยังไงกับผู้จัดการทีม เราต้องเล่นเพื่อตัวเอง”

นั่นคือ “สัญญาณ” ถึงจุดจบของยุค เทน ฮาก… 5 วันต่อมา บอร์ดบริหาร INEOS ประชุมกัน และเริ่มกระบวนการหาตัวแทน

“กวีสังหาร” ผู้ไม่ประนีประนอม

ใครก็ตามที่คิดว่า อโมริม จะ “ใจดี” กว่า เทน ฮาก… พวกเขาคิดผิดมหันต์

ชายที่ คริสเตียโน โรนัลโด เคยให้สมญานามว่า “กวี” (The Poet) ผู้นี้ สามารถผสมผสาน “ภาพที่สวยหรู” เข้ากับ “การประเมินที่โหดเหี้ยม” ได้อย่างน่าทึ่ง… และเบื้องหลังประตูที่ปิดอยู่ เขา “คม” ยิ่งกว่าในห้องแถลงข่าว

มี “บทเรียน” สำคัญเกิดขึ้นในการประชุมทีมช่วงสิ้นฤดูกาลที่แล้ว… อโมริม “เชือด” มานูเอล อูการ์เต้ อดีตลูกรักของเขาเองที่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ต่อหน้าเพื่อนร่วมทีมทุกคน

อโมริม รู้สึกว่า อูการ์เต้ “ผ่อนคลาย” และ “อัตราการทำงาน” (Work Rate) ตกต่ำลง เขาพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมจำนักเตะที่ผมเคยรู้จักคนนั้นไม่ได้เลย”

การวิจารณ์อดีตศิษย์รักต่อหน้าทีมใหม่ สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วห้องแต่งตัว มันแสดงให้ลูกทีมเห็นว่า อโมริม “โหด” แต่ “ยุติธรรม” และมองที่ผลงานเท่านั้น (ไม่ต่างจากแทคติกที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยใช้ตะโกนด่า ไรอัน กิ๊กส์ เพื่อให้ นานี่ ได้ยิน)

เขายังเป็นคนบอก อเลฮานโดร การ์นาโช่ ว่า “ถ้าฉันยังอยู่ต่อ ซัมเมอร์นี้นายหาเอเยนต์ดีๆ ได้เลย” นี่คือความอำมหิตของเขา

ปรัชญา “3-4-2-1” ที่แม้แต่พระสันตะปาปาก็เปลี่ยนใจเขาไม่ได้

หัวใจของ อโมริม คือระบบหลังสาม (3-4-2-1) ที่เขา “ดื้อรั้น” จะใช้มัน เขามักจะ “จัดท่า” ผู้เล่นด้วยมือของตัวเอง (Manhandled) ในสนามซ้อม “ขยับทีละหลา สองหลา” จนกว่าจะเป๊ะ เขาต้องการให้ทีมเคลื่อนที่ “เป็นหนึ่งเดียว” โดยสัญชาตญาณ

มีรายงานว่า เจสัน วิลค็อกซ์ (ผอ.ฟุตบอล) ซึ่งชื่นชอบระบบ 4-3-3 พยายามพูดคุยเรื่องนี้… แต่อโมริมชัดเจนว่า เขาจะไม่เปลี่ยนจุดยืนเริ่มต้นเด็ดขาด แม้จะมีการซ้อม 4-3-3 บ้าง เพื่อความเข้าใจในบางจังหวะของเกมก็ตาม

การรื้อวัฒนธรรม: จาก “ระเบิดเวลา” สู่ “ระเบียบเหล็ก”

อโมริม ไม่ร่วมกิจกรรมสังสรรค์กับลูกทีม เขารักษาระยะห่างเพื่อ “อำนาจ” เขาสั่งให้นักเตะ “ครึ่งทีม” ต้องแจกลายเซ็นแฟนบอลก่อนเกม และอีก “ครึ่งทีม” หลังเกม เพื่อหยุดวัฒนธรรม “เมิน” แฟนบอล

เขาตั้ง “หน่วยจัดการ” (Bomb Squad) ที่ชัดเจน (แรชฟอร์ด, การ์นาโช่, อันโตนี่, ซานโช่, มาลาเซีย)… แต่ก็ยืดหยุ่นพอที่จะ “รับฟัง” เมื่อลูกทีมคนอื่นหนุนหลัง มาลาเซีย จนได้กลับมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่อีกครั้ง

แต่… ความจริงที่โหดร้าย: สถิติคือหายนะ

นี่คือ “ความลึกซึ้ง” ของเรื่องนี้… แม้ อโมริม จะพยายาม “ผ่าตัด” วัฒนธรรมที่เน่าเฟะอย่างหนัก แต่ผลลัพธ์ในสนามกลับน่าใจหาย

• แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บได้ 45 คะแนน จาก 38 เกมลีก ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม
• หากนับเฉพาะทีมที่อยู่ในลีกต่อเนื่อง… แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในอันดับที่ 14 ของตารางฟอร์มลีก ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ชนะเพียง 12 จาก 38 นัด!

แม้ช่วงหลัง กราฟ xG (ค่าความคาดหวังในการได้ประตู) จะเริ่มกระเตื้องขึ้น, แม้จะเพิ่งชนะ ซันเดอร์แลนด์, ลิเวอร์พูล และ ไบรท์ตัน… แต่ความเป็นจริงก็คือ พวกเขายังอยู่ “ห่างไกล”

12 เดือนของ อโมริม คือการต่อสู้ระหว่าง “วิสัยทัศน์” ที่ชัดเจน กับ “ความเป็นจริง” ที่โหดร้าย… และแฟนบอลที่ชื่อ แฟรงค์ ไอเล็ตต์ (เจ้าของแอคเคาท์ United Strand) ก็ยังคงต้อง “ไว้ผมยาว” ต่อไป ตามคำสาธิษฐานที่ว่า “จะไม่ตัดจนกว่ายูไนเต็ดจะชนะ 5 นัดรวด”