จากส่วนเกินสู่หัวใจ! ‘คาเซมิโร่’ แบกแดนกลางแมนยู เดิมพันครั้งสำคัญที่แอนฟิลด์
BK8 – ย้อนกลับไปเมื่อ 10 เดือนก่อน ในบ่ายวันอันหนาวเหน็บของเดือนมกราคมที่แอนฟิลด์ คาเซมิโร่ เป็นเพียงผู้ชมบนม้านั่งสำรอง มันคือภาพสะท้อนสถานะของเขาภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม ในเวลานั้น… ชายผู้ดูเหมือนจะกลายเป็น “ส่วนเกิน” ของทีม – แทงบอล
แต่ ณ วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2025 ที่กำลังจะมาถึงนี้ สถานการณ์กลับพลิกผันไปอย่างสิ้นเชิง กองกลางชาวบราซิลวัย 33 ปี ไม่เพียงแต่จะกลับมาเป็นกำลังหลัก แต่ยังกลายเป็น “หัวใจ” ที่ทีมของอโมริมแทบจะขาดไม่ได้ และศึกแดงเดือดครั้งนี้ คือเวทีสำคัญที่สุดที่เขาจะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
ฝันร้ายที่ชื่อ ‘ลิเวอร์พูล’ น่าแปลกที่เส้นทางค้าแข้งของ คาเซมิโร่ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักจะมี “ลิเวอร์พูล” เข้ามาเกี่ยวข้องกับ “จุดต่ำสุด” เสมอ
- 2022: เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ก่อนเกมที่ยูไนเต็ดพลิกล็อกชนะ 2-1
- ฤดูกาล 2022-23: เป็นส่วนหนึ่งของความพ่ายแพ้ครั้งประวัติศาสตร์ 0-7 ที่แอนฟิลด์
- กันยายน 2024: ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง หลังเล่นผิดพลาดจนนำไปสู่การเสีย 2 ประตูแรก ในเกมที่แพ้คาบ้าน 0-3
- มกราคม 2025: นั่งเป็นตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน ในเกมที่ทีมบุกไปยันเสมอ 2-2 ที่แอนฟิลด์
ช่วงเวลาเหล่านั้น คือบททดสอบที่หนักหน่วงที่สุดสำหรับนักเตะเจ้าของแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 5 สมัย เขาถูกมองว่าหมดสภาพ, เชื่องช้าเกินไปสำหรับฟุตบอลอังกฤษ และไม่เหมาะกับระบบของอโมริม ถึงขนาดที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานลิเวอร์พูล เคยออกมาเรียกร้องให้เขาอำลาพรีเมียร์ลีกไปเสีย
การคัมแบ็กที่ไม่ยอมแพ้ แต่ คาเซมิโร่ ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ เขาไม่ได้โวยวายหรือเรียกร้องโอกาส แต่เลือกที่จะก้มหน้าก้มตาทำงานหนักในสนามซ้อม พิสูจน์ให้ผู้จัดการทีมเห็นว่าเขายังมีดีพอ และเมื่อโอกาสมาถึง เขาก็คว้ามันไว้ได้อย่างอยู่หมัด
เขากลับมาฟิตสมบูรณ์ยิ่งขึ้นในช่วงต้นปี 2025 และกลายเป็นกำลังสำคัญในศึกยูโรป้า ลีก ก่อนจะยึดตำแหน่งตัวจริงในลีกคืนมาได้สำเร็จในฤดูกาลนี้ สถิติบ่งชี้ว่าเขาคือผู้เล่นที่เข้าปะทะมากที่สุด (4.5 ครั้ง/เกม) และเก็บบอลคืนได้มากเป็นอันดับสองของทีมรองจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส
“เขาคือคนที่นำสมดุลมาสู่แดนกลาง” คือคำนิยามที่ชัดเจนที่สุดถึงความสำคัญของเขาในระบบของอโมริมในปัจจุบัน
เดิมพันครั้งสำคัญ แม้จะกลับมาเป็นตัวหลัก แต่สัญญาของ คาเซมิโร่ กำลังจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์หน้า และโอกาสที่สโมสรจะใช้ออปชั่นขยายสัญญาด้วยค่าเหนื่อยเท่าเดิมนั้นมีน้อยมาก แต่การเจรจาสัญญาฉบับใหม่ก็ยังไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เกมแดงเดือดที่แอนฟิลด์ในวันอาทิตย์นี้ จึงเป็นมากกว่าแค่การแย่งชิงสามคะแนน มันคือเวทีสำหรับ คาเซมิโร่ ที่จะได้ลบฝันร้ายในอดีต, ตอกหน้าเสียงวิจารณ์ และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า “ฟุตบอลยังไม่ได้จากเขาไป” อย่างที่ใครๆ เคยปรามาสไว้ และบางที… ชัยชนะเหนือคู่ปรับตลอดกาลในถิ่นของพวกเขา อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็เป็นได้
