ดราม่าข้างสนาม! “การ์นาโช่” ส่ายหัวไม่พอใจหลังโดนเปลี่ยนตัว แฟนเชลซี เสียงแตก
BK8thai – ชัยชนะ 1-0 เหนือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในศึกพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจเป็น 3 คะแนนที่ล้ำค่าสำหรับ เชลซี แต่ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดหลังเกม กลับไม่ใช่ผลการแข่งขัน แต่เป็น “ภาษากาย” ที่เต็มไปด้วยความผิดหวังของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ดาวรุ่งคนใหม่ของทีม – แทงบอล
การ์นาโช่ได้รับความไว้วางใจจาก เอ็นโซ่ มาเรสก้า ให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงต่อเนื่องเป็นนัดที่ 4 และเขาก็ทำผลงานได้อย่างแข็งขันทางฝั่งซ้าย หลังจากเพิ่งปลดล็อกประตูแรกในสีเสื้อ “สิงห์บลูส์” ได้ในเกมกับ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ก่อน
แต่ในนาทีที่ 66 ขณะที่ทีมกำลังนำอยู่ 1-0 (จากประตูของ เจา เปโดร ในนาทีที่ 34) ป้ายเปลี่ยนตัวก็ถูกยกขึ้นเป็นชื่อของเขา เพื่อเปิดทางให้ เจมี่ บายนู-กิตเทนส์ ลงมาเล่นแทน
ภาพที่ การ์นาโช่ เดินมานั่งที่ม้านั่งสำรอง และ “ส่ายหัว” ของเขาซ้ำๆ ด้วยความไม่พอใจ ถูกกล้องถ่ายทอดสดจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของบทสนทนาครั้งใหญ่ในหมู่แฟนบอลเชลซี
ปฏิกิริยาดังกล่าวได้จุดชนวนดราม่าในโลกโซเชียล โดยแฟนบอลแบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน ฝ่ายหนึ่งมองว่านี่คือ “ทัศนคติ” ที่ไม่เหมาะสมสำหรับสโมสรที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอย่างเชลซี “การ์นาโช่คิดว่าเขาสามารถเดินเข้าสู่ทีมของเราและได้เล่น 90 นาทีตลอดเลยหรือไง?” แฟนบอลคนหนึ่งวิจารณ์ “ทำไมการ์นาโช่ต้องโกรธด้วย?” อีกคนตั้งคำถาม “ใครสักคนต้องเตือนสติการ์นาโช่ว่าเขาอยู่ที่ไหน นี่คือเชลซีนะ ไม่ใช่ว่าการเปลี่ยนตัวทุกครั้งหมายความว่าคุณเล่นแย่ ที่นี่เราหมุนเวียนนักเตะ”
ในขณะที่แฟนบอลอีกกลุ่ม ก็ออกมาปกป้องดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ โดยมองว่าเขากำลังเล่นได้ดีและไม่สมควรถูกเปลี่ยนตัวออก “การ์นาโช่ไม่สมควรโดนเปลี่ยนตัวออกเลย” “เป็นการเปลี่ยนตัวที่ไม่จำเป็นอย่างยิ่ง” “ง่ายๆ เลย การ์นาโช่มีอิมแพ็คมากกว่า บายนู-กิตเทนส์ และไม่ควรเปลี่ยนตัวเขาออกเร็วขนาดนี้”
นี่คือบทเรียนครั้งสำคัญของ การ์นาโช่ ในวัย 21 ปี แม้เขาจะย้ายมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่การปรับตัวเข้ากับ “วัฒนธรรม” และ “การแข่งขัน” ภายในทีมระดับท็อปอย่างเชลซี ซึ่งมีการหมุนเวียนนักเตะเป็นเรื่องปกติ คือสิ่งที่เขายังต้องเรียนรู้
แม้สุดท้าย เชลซี จะสามารถรักษาสกอร์และคว้าชัยชนะมาได้ แต่ “การส่ายหัว” ในครั้งนี้ คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนถึงความกระหายและความคาดหวังในตัวเองที่เขามี ซึ่ง เอ็นโซ่ มาเรสก้า จะต้องหาวิธีจัดการกับมันต่อไป ก่อนที่มันจะกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม

