ทุ่มแหลกจนโลกจำ ตลาดนักเตะประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล จะปิดฉาก #FSGOut ได้จริงหรือ?

BK8 – เป็นเวลากว่าทศวรรษที่แฮชแท็ก #FSGOut โลดแล่นอยู่ในโลกโซเชียล เปรียบเสมือนเสียงสะท้อนของแฟนบอลลิเวอร์พูลกลุ่มหนึ่งที่ไม่พอใจในแนวทางการบริหารทีมของ Fenway Sports Group (FSG) กลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกา โดยมีหัวใจหลักของคำวิจารณ์คือ “การขาดการลงทุนที่สมน้ำสมเนื้อ” โดยเฉพาะในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะที่สโมสรดูจะเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม หลังสิ้นสุดตลาดซัมเมอร์ปี 2025 ดูเหมือนว่ากระแสดังกล่าวจะเงียบสงบลงอย่างน่าประหลาดใจ คำถามสำคัญจึงเกิดขึ้น: นี่คือจุดสิ้นสุดของ #FSGOut แล้วใช่หรือไม่?
ตลาดที่เปลี่ยนเสียงวิจารณ์เป็นเสียงชื่นชม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดนักเตะครั้งล่าสุดของลิเวอร์พูลนั้น “ไม่ธรรมดา” การทุ่มเงินมหาศาลทุบสถิติสโมสรและสถิติเกาะอังกฤษถึงสองครั้งซ้อนในการคว้าตัว ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สั่นสะเทือนวงการ และเป็นการตบหน้าคำวิจารณ์เรื่องความขี้เหนียวของ FSG อย่างจัง
หากมองย้อนกลับไป นับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ลิเวอร์พูลภายใต้การบริหารของ FSG ได้ทุบสถิติบริติชในการซื้อผู้เล่นมาแล้วครบทุกตำแหน่ง ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู (อลิสซอน เบ็คเกอร์), กองหลัง (เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค), กองกลาง (ฟลอเรียน เวิร์ตซ์) และล่าสุดคือกองหน้า (อเล็กซานเดอร์ อิซัค) แม้ว่าเงินทุนส่วนใหญ่จะมาจากการขายนักเตะทำกำไรมหาศาล แต่มันก็ทำให้กลุ่ม #FSGOut ที่เคยเสียงดังต้องเงียบลงไปถนัดตา ถึงขนาดที่แอคเคาท์ต่อต้าน FSG ชื่อดังใน X (ทวิตเตอร์) โพสต์ติดตลกว่าอาจจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็น #FSGIn แทน
สันติภาพที่เปราะบาง: แผลเก่าที่แฟนบอลไม่เคยลืม
แม้การลงทุนครั้งประวัติศาสตร์จะสร้างความพึงพอใจให้กับแฟนบอลส่วนใหญ่ แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า FSG ได้ซื้อใจเดอะ ค็อป ทั้งหมดแล้ว เพราะในความเป็นจริง โมเดลการทำธุรกิจของพวกเขายังคงเหมือนเดิม นั่นคือ “ใช้จ่ายเท่าที่หามาได้” ความสำเร็จในสนาม (แชมป์ลีก) และนอกสนาม (การต่อเติมสนามแอนฟิลด์) คือสิ่งที่สร้างรายได้มหาศาลและเป็นเชื้อเพลิงในการช็อปปิ้งครั้งนี้ ไม่ใช่การควักเงินส่วนตัวของเจ้าของ
แฟนบอลยังไม่ลืมบทเรียนราคาแพงในอดีต ไม่ว่าจะเป็นความพยายามขึ้นค่าตั๋วเป็น 77 ปอนด์จนเกิดการประท้วงเดินออกจากสนาม, การพยายามจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “Liverpool” หรือการเป็นหัวหอกในการก่อตั้ง “ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ล้วนสร้างรอยแผลและความหวาดระแวงในใจแฟนบอลว่าท้ายที่สุดแล้ว FSG มองสโมสรเป็นเพียง “สินทรัพย์” มากกว่า “สมบัติของชุมชน” หรือไม่
บทสรุป: การพักรบชั่วคราว?
การทุ่มเงินในตลาดนักเตะรอบล่าสุด อาจเปรียบได้กับ “การพักรบชั่วคราว” มากกว่าจะเป็น “จุดสิ้นสุดของสงคราม” แฮชแท็ก #FSGOut อาจจะเงียบหายไปในตอนนี้ แต่ความท้าทายและการจับตาจากแฟนบอลจะยังคงอยู่เสมอ การจัดตั้งบอร์ดบริหารแฟนบอล (Supporters’ Board) ถือเป็นก้าวที่ดีในการสื่อสาร แต่สุดท้ายแล้ว การกระทำในอนาคตเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า FSG ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตและพร้อมจะเดินไปข้างหน้าร่วมกับแฟนบอลอย่างแท้จริงหรือไม่ – แทงบอล