บทสนทนาที่มาช้าไป: เมื่อ “ริโอ เฟอร์ดินานด์” ย้อนรอยความเจ็บปวด และโลกที่เปลี่ยนไปของนักฟุตบอล

BK8 – ในยุคทองของพอดแคสต์ฟุตบอล รายการ “Rio Meets” ของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการเปิดหน้าต่างบานใหม่สู่จิตใจของเหล่าซูเปอร์สตาร์ที่เราคิดว่ารู้จักดีอยู่แล้ว และบทสนทนาล่าสุดของเขากับ เวย์น รูนี่ย์ ก็ได้เผยให้เห็นถึง “ความจริงอันน่าเจ็บปวด” ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จในสนาม… ความจริงที่ว่าแม้แต่เพื่อนร่วมทีมที่ใกล้ชิดที่สุด ก็อาจไม่เคยรู้จักตัวตนที่แท้จริงของกันและกันเลย – แทงบอล

ณ วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2025 เฟอร์ดินานด์ได้เปิดใจกับ The Times ถึงเบื้องหลังบทสนทนาอันลึกซึ้งนั้น และย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของเขา… การต่อสู้กับโรคมะเร็งของ รีเบคก้า ภรรยาคนแรกผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาแทบไม่เคยเอ่ยปากพูดถึงในห้องแต่งตัวของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลย

“เวย์นบอกว่า ‘ฉันหวังว่านายจะบอกฉันนะ ฉันหวังว่านายจะบอกว่าภรรยาของนายป่วยตั้งแต่ตอนที่เธอเป็นมะเร็งครั้งแรก'” เฟอร์ดินานด์เล่าถึงบทสนทนากับรูนี่ย์ “แล้วผมก็ตอบไปว่า ‘เวย์น ฉันไม่อยากจะส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของนาย หรือทำให้บรรยากาศในทีมมันแย่ลงเพราะเรื่องของฉัน'”

“มันมีด้านของความเป็นชายชาตรีในสภาวะแวดล้อมแบบ ‘อัลฟ่า’ (Alpha environment) ที่ทำให้คุณคิดว่า ‘ฉันจะไม่เป็นคนๆ นั้น'”

นี่คือคำสารภาพที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมที่ฝังรากลึกในวงการฟุตบอลยุคก่อน… วัฒนธรรมที่ปิดกั้นการแสดงออกถึงความเปราะบางทางอารมณ์

“นี่คือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในภายหลัง ว่าคุณจำเป็นต้องพูดคุยและสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม เพื่อนร่วมงาน หรือครอบครัว แต่ผมไม่มีทักษะเหล่านั้นในตอนนั้น”

เฟอร์ดินานด์ในวันนี้ คือชายผู้เข้าใจถึงพลังของการสื่อสาร เขาผันตัวจากนักวิจารณ์ทางโทรทัศน์ มาสู่การเป็นผู้สร้างสรรค์ “พื้นที่ปลอดภัย” ในรายการพอดแคสต์ของตัวเอง ที่ซึ่งแขกรับเชิญสามารถ “ควบคุมเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง” ได้อย่างเต็มที่

“ตลกดีนะ เพราะตอนนี้ คริสเตียโน่ [โรนัลโด้] เรียกผมว่า ‘นักข่าว’ แล้ว” เฟอร์ดินานด์หัวเราะ “เขาส่งข้อความมาบอกว่า ‘ตอนนี้ฉันพูดอะไรมากในกรุ๊ป WhatsApp ของยูไนเต็ดไม่ได้แล้ว ริโออยู่ในนั้น ริโอ นักข่าว!'”

มุมมองต่อยูไนเต็ดในปัจจุบัน เมื่อถูกถามถึงสถานการณ์ของสโมสรเก่า เฟอร์ดินานด์ยอมรับว่ายังไม่เห็นสัญญาณที่ดีพอที่จะทำให้เชื่อมั่นได้เต็มร้อย แต่เขาก็ยังคงมองเห็น “แง่บวก” ในทางสถิติ อย่างไรก็ตาม เขายังคงตั้งคำถามถึงการใช้งานนักเตะในตำแหน่งที่ไม่ถนัด เช่น บรูโน่ แฟร์นันด์ส และการขาดหายไปของ “บทสนทนาพื้นฐาน” ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาของทีม

โลกที่เปลี่ยนไป… แต่สายเกินไปหรือไม่? เฟอร์ดินานด์ยอมรับว่าเขารู้สึกยินดีที่นักเตะรุ่นใหม่เติบโตขึ้นมาในยุคที่สโมสรให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตมากขึ้น และมีพื้นที่ให้แสดงออกมากขึ้น แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่า…

“ถ้าเราสามารถเปิดใจและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ [ภาวะซึมเศร้า, ปัญหาครอบครัว] ได้มากขึ้น ผมเชื่อจริงๆ ว่ามันจะช่วยทีมของเราได้”

แต่คำถามที่สำคัญกว่านั้นคือ… ริโอ เฟอร์ดินานด์ จะยังคงเป็น ริโอ เฟอร์ดินานด์ คนเดิมได้หรือไม่ หากเขาแสดงความเปราะบางออกมา? สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะยังคงเป็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้หรือไม่?

“ผมแค่คิดว่าเราคงไม่ได้รับอนุญาตให้ทำแบบนั้น” เขาสรุป “ผู้คนคงจะตีตราในแง่ลบ ตัวตนทั้งหมดของเราคงจะเปลี่ยนไป… คุณต้องมองไปที่คนอย่าง เวย์น รูนี่ย์ หรือ สตีเว่น พวกเขาคือมือปืน คือฮีโร่ที่สามารถฉุดทีมขึ้นมาจากหล่มได้ แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรถ้าพวกเขาถูกมองว่า ‘อ่อนแอ’ ในแง่ของสภาพจิตใจ?”

บทสัมภาษณ์นี้จึงเป็นมากกว่าแค่การรำลึกความหลัง แต่มันคือการเดินทางย้อนเวลาไปสำรวจบาดแผลที่ซ่อนอยู่ และเป็นการตั้งคำถามที่ทรงพลังถึง “ราคา” ที่นักฟุตบอลในยุคก่อนต้องจ่ายเพื่อแลกกับคำว่า “ความสำเร็จ”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ข่าวที่คุณห้ามพลาด