ผลงานสวนทางสถิติ! เจาะลึกตัวเลขพิสูจน์ แมนยู ยุค ‘อโมริม’ ดีขึ้นจริงหรือแค่ภาพลวงตา?

BK8 – “พวกเขาต้องการความสำเร็จในชั่วข้ามคืน พวกเขาคิดว่ามันเหมือนการเปิดสวิตช์ไฟ” คือคำกล่าวของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ที่สะท้อนถึงความจริงอันโหดร้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี – แทงบอล

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ที่ถาโถมใส่ รูเบน อโมริม หลังพาทีมชนะและแพ้ในจำนวนที่เท่ากันตลอดการเริ่มต้นฤดูกาล แต่เมื่อเรามองข้าม “ผลการแข่งขัน” ที่อยู่บนหน้ากระดาษ และเจาะลึกลงไปใน “สถิติเบื้องหลัง” เราอาจจะได้เห็นเรื่องราวที่แตกต่างออกไป… เรื่องราวของทีมที่กำลัง “ดีขึ้น” อย่างเงียบๆ

ณ วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2025 คำถามสำคัญที่แฟนบอล “ปีศาจแดง” ต้องเผชิญก็คือ ทีมมีการพัฒนาขึ้นจริงหรือไม่ภายใต้การคุมทีมเกือบหนึ่งปีของอโมริม?

มรดกที่แสนเจ็บปวด สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจคือ อโมริมไม่ได้เข้ามารับช่วงต่อจากทีมที่สมบูรณ์แบบ เขารับมรดกทีมที่ “พัง” มาจากยุคของ เอริค เทน ฮาก ทีมที่เล่นฟุตบอลสไตล์ “บาสเกตบอล” คือเปิดเกมแลกกันอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับเสียโอกาสมากกว่าที่สร้างได้ สถิติ “ค่าคาดหวังผลต่างประตู” (xGD) ในช่วงท้ายยุคเทน ฮาก ดิ่งลงเหวถึง -1.56 ซึ่งเป็นตัวเลขระดับหายนะ พูดง่ายๆ คือ พวกเขาเล่นเหมือนทีมหนีตกชั้น

สัญญาณแห่งการฟื้นคืนชีพ แต่ภายใต้การคุมทีมของอโมริม กราฟที่เคยดิ่งลงเหวกลับค่อยๆ ชี้ขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2023 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีค่า xGD เป็นบวกได้อย่างต่อเนื่องเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองปี!

พวกเขาทำได้อย่างไร? คำตอบคือการแก้ปัญหาที่ตรงจุด อโมริมได้ลด “ความโกลาหล” ในเกมรับลงอย่างน่าทึ่ง จากที่เคยโดนยิงเฉลี่ยเกมละ 17.37 ครั้ง (แย่เป็นอันดับสองในยุโรป) ตอนนี้ลดลงมาเหลือเพียง 10.4 ครั้ง ขณะที่เกมรุกยังคงสร้างโอกาสได้ในระดับใกล้เคียงเดิม (14.1 ครั้งต่อเกม) ส่งผลให้พวกเขามี “ผลต่างโอกาสยิง” เป็นบวกถึง 4 ครั้งต่อเกม ซึ่งเป็นสัญญาณของการ “ควบคุมเกม” ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

แต่… ปัญหาก็ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่สวยงามเหล่านี้ก็ยังซ่อนปัญหาใหญ่ที่อโมริมต้องรีบแก้ไขเอาไว้

  1. ความเฉียบคมที่หายไป: ยูไนเต็ดคือทีมที่มีค่า xG (โอกาสในการได้ประตู) สูงเป็นอันดับ 3 ของลีก (11.2) แต่กลับยิงได้เพียง 6 ประตู! ซึ่งเป็นผลต่างในแง่ลบที่มากที่สุดในลีก มันคือบทพิสูจน์ว่าพวกเขาสร้างโอกาสได้ดี แต่จบสกอร์ได้ย่ำแย่
  2. หลังบ้านที่ยังพร้อมโดน: แม้จะโดนยิงน้อยลง แต่ “คุณภาพ” ของโอกาสที่เสียไปกลับสูงมาก พวกเขายังคงเปราะบางอย่างยิ่งในจังหวะสวนกลับเร็ว
  3. ยิงทิ้งยิงขว้าง: ปัญหาที่น่าปวดหัวที่สุดคือการมีผู้เล่นที่ชอบ “ยิงไกล” อยู่ในทีมมากเกินไป ทั้ง คุนญ่า, เอ็มเบวโม่ และ บรูโน่ ต่างพากันสับไกจากนอกกรอบเขตโทษ ทำให้ทีมมีจำนวนการยิงที่สูง แต่กลับเป็นโอกาสที่มีเปอร์เซ็นต์เป็นประตูต่ำ และที่สำคัญคือ มันทำให้กองหน้าตัวเป้าอย่าง เบนจามิน เซสโก้ แทบไม่ได้รับโอกาสทองในกรอบเขตโทษเลย

บทสรุป ตัวเลขไม่เคยโกหก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคของ รูเบน อโมริม กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง พวกเขามี “โครงสร้าง” และ “รูปแบบการเล่น” ที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม แต่การจะเปลี่ยน “พัฒนาการทางสถิติ” ให้กลายเป็น “ผลการแข่งขันในสนาม” นั้น ยังคงเป็นโจทย์ที่ยากที่สุดที่เขายังต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ข่าวที่คุณห้ามพลาด