“สล็อต แค่โชคดี!” – โซล แคมป์เบลล์ ชี้ กุนซือลิเวอร์พูล รับมรดกคล็อปป์, ไม่เหมือน อาร์เตต้า ที่ต้องสร้างทีมจากศูนย์

BK8 – ในโลกของฟุตบอลยุคใหม่ที่ความสำเร็จคือทุกสิ่ง โซล แคมป์เบลล์ ตำนานปราการหลังของอาร์เซนอลและทีมชาติอังกฤษ ได้ออกมาแสดงทรรศนะที่เฉียบคมและอาจจุดประเด็นถกเถียงครั้งใหญ่ โดยเปรียบเทียบเส้นทางการคุมทีมของสองกุนซือแห่งยุคอย่าง อาร์เน่ สล็อต ของลิเวอร์พูล และ มิเกล อาร์เตต้า แห่งอาร์เซนอล – แทงบอล
แคมป์เบลล์ชี้ว่า อาร์เน่ สล็อต คือผู้จัดการทีมที่ “โชคดี” อย่างยิ่งที่ได้เข้ามารับช่วงต่อจากทีมที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ สร้างไว้จนสมบูรณ์แบบ การพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาลแรก (ตามบริบทข่าว) จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะเขาแทบไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
“บางครั้งช้าๆ ก็ได้พร้าเล่มงาม แต่บางคนก็โชคดี” แคมป์เบลล์กล่าว “อาร์เน่ สล็อต โชคดีมากที่ได้รับมรดกเป็นทีมที่มหัศจรรย์และคว้าแชมป์ลีกได้เลย เขาไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก แค่เข้ามาแล้วนักเตะตอบสนองได้ดี”
ในทางกลับกัน แคมป์เบลล์ยกย่อง มิเกล อาร์เตต้า ว่าคือ “ผู้สร้าง” ที่แท้จริง เขาต้องใช้เวลาถึง 6 ปีในการค่อยๆ ปั้นอาร์เซนอลขึ้นมาใหม่จากศูนย์ ต้องผ่านกระบวนการที่เจ็บปวดในการ “โละแข้งส่วนเกิน” (deadwood) ที่ไม่เข้าระบบออกไป จนกระทั่งในสองปีหลังมานี้ที่เขามีทีมที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง
“อาร์เตต้าต้องสร้างมันขึ้นมาเองทั้งหมด” ตำนานปืนโตกล่าวต่อ “ในที่สุดพวกเขาก็มีกองหน้าตัวเป้า (วิคตอร์ เกียวเคเรส) แต่ก็ต้องเรียนรู้ว่าจะใช้งานเขายังไง แต่รากฐานมันถูกสร้างขึ้นมาแล้ว การที่ วิลเลียม ซาลิบา ต่อสัญญายาวไปถึงปี 2030 ก็เพราะเขาเชื่อว่าทีมชุดนี้สามารถเป็นแชมป์ได้ และปีนี้คือปีที่พวกเขาต้องทำให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม”
แคมป์เบลล์ยังชื่นชมแนวรับของอาร์เซนอล โดยเฉพาะ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ที่เขายกให้เป็นหนึ่งในแบ็กขวาที่ดีที่สุดในยุโรป และเชื่อว่าแผงหลังทั้ง 5 คนในตอนนี้มีความเข้าใจและวุฒิภาวะที่พร้อมจะก้าวไปสู่ความสำเร็จแล้ว
นอกจากเรื่องสโมสร แคมป์เบลล์ยังได้ตอกย้ำคำพูดของ สตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติที่เรียกแข้ง “ยุคทอง” ของอังกฤษว่าเป็น “พวกขี้แพ้ที่อีโก้สูง” โดยยอมรับว่าเป็นความจริงที่ทุกคนมองเห็น แต่เพิ่งจะกล้ายอมรับกันเมื่อโตขึ้น พร้อมชี้ว่าปัญหาหลักมาจาก “ความเป็นอริของสโมสรจากตอนเหนือ” (ลิเวอร์พูล-แมนฯ ยูไนเต็ด) และวิจารณ์ว่าทีมโค้ชในยุคนั้นควรจะเข้ามาจัดการปัญหานี้ไม่ให้บานปลาย
มุมมองของ โซล แคมป์เบลล์ ในครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนกระจกสะท้อนให้เห็นว่าเบื้องหลังความสำเร็จของแต่ละทีมนั้นมีที่มาที่แตกต่างกัน และเป็นการตั้งคำถามที่น่าสนใจว่า ระหว่าง “ผู้รับมรดก” กับ “ผู้สร้าง” ใครกันแน่ที่ควรได้รับการยกย่องมากกว่ากัน