“เคยถูกยกว่าเก่งกว่า สเตอร์ลิง!” เส้นทางที่หายไปของ จอร์แดน ไอบ์ อดีตวันเดอร์คิด ลิเวอร์พูล สู่ลีกระดับ 8
BK8 – ในโลกของฟุตบอลที่เต็มไปด้วยแสงสีและความคาดหวัง “วันเดอร์คิด” คือคำที่เปรียบเสมือนดาบสองคม มันสามารถส่งคุณขึ้นสู่จุดสูงสุด หรือพรากทุกอย่างไปจากคุณได้ในพริบตา และเรื่องราวของ จอร์แดน ไอบ์ คือบทพิสูจน์ที่เจ็บปวดแต่ก็ลึกซึ้งที่สุดบทหนึ่ง – แทงบอล
ย้อนกลับไปในปี 2016 เจมี่ เร้ดแน็ปป์ อดีตกองกลางชื่อดัง เคยกล่าวเปรียบเทียบไว้ว่า ไอบ์ มี “พรสวรรค์ตามธรรมชาติ” มากกว่า ราฮีม สเตอร์ลิง เสียอีก… คำพูดนั้นได้สร้างความหวังอันยิ่งใหญ่ให้กับเหล่า “เดอะ ค็อป”
ไอบ์ ในวัยหนุ่ม คือทุกสิ่งที่ลิเวอร์พูลมองหา เขาลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ไป 58 นัด ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บอร์นมัธ ด้วยค่าตัวสถิติสโมสรในขณะนั้นถึง 15 ล้านปอนด์ ดูเหมือนว่าเส้นทางสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์ของเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
แต่ชีวิตจริง… มันซับซ้อนกว่านั้น
ณ วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2025 ในวัยเพียง 29 ปี จอร์แดน ไอบ์ เพิ่งจะจรดปากกาเซ็นสัญญากับ ซิตติ้งบอร์น สโมสรในระดับ ดิวิชั่น 8 ของอังกฤษ หลังจากพเนจรล้มเหลวทั้งกับ บอร์นมัธ, ดาร์บี้ เคาน์ตี้ และการเดินทางไปค้าแข้งในตุรกี
เกิดอะไรขึ้นกับนักเตะที่เคยถูกคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอนาคตของทีมชาติอังกฤษ?
คำตอบที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่ฝีเท้า แต่คือการต่อสู้ที่เกิดขึ้น “ข้างใน” ไอบ์เคยออกมาเปิดใจอย่างกล้าหาญเมื่อปี 2021 ว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับ “ภาวะซึมเศร้า” และพบว่าตัวเองกำลังจมอยู่ใน “สถานที่อันมืดมิด”
ความกดดันมหาศาลของการเป็น “วันเดอร์คิด”, ค่าตัวสถิติ และความคาดหวังที่จะต้อง “เก่งกว่าสเตอร์ลิง” ได้กัดกินเขาจากภายใน จนทำให้ฟอร์มในสนามดิ่งลงเหวอย่างไม่เหลือชิ้นดี
แต่เรื่องราวของ จอร์แดน ไอบ์ อาจไม่ใช่โศกนาฏกรรมอย่างที่หลายคนคิด เพราะในความมืดมิดนั้น เขาได้ค้นพบบางสิ่งที่ล้ำค่ายิ่งกว่า…
“ผมจะไม่พูดว่าผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น” ไอบ์กล่าวกับ The Guardian เมื่อต้นปีที่ผ่านมา “มันเปลี่ยนผมให้ดีขึ้น”
“ฟุตบอลไม่ใช่ความสำเร็จหลักในชีวิตของผม ผมมีจุดมุ่งหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น… คือการเป็นพ่อที่ดี, เป็นมนุษย์ที่ดี, เป็นพี่ชาย, เป็นลูกชาย… สิ่งที่มีความหมายมากกว่าในชีวิต”
เรื่องราวของเขาที่ ซิตติ้งบอร์น ในวันนี้ อาจไม่ใช่การกลับมาที่ยิ่งใหญ่ในสายตาของโลกฟุตบอล แต่มันคือการเดินทางของชายคนหนึ่งที่ได้ “ยอมรับ” อดีต, “เยียวยา” บาดแผล และ “เริ่มต้นใหม่” กับเกมที่เขารัก ในแบบที่ปราศจากความกดดันของแสงสปอตไลท์
นี่คือบทเรียนที่ทรงพลังที่สุดว่า “ความสำเร็จ” ที่แท้จริงในชีวิต อาจไม่ได้ถูกวัดค่าด้วยถ้วยรางวัลหรือค่าเหนื่อยมหาศาลเสมอไป
