เจาะลึกเรื่องราวเบื้องหลัง “ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส” กับหนึ่งในการประเดิมสนามที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

“C’est la vie” (นี่แหละชีวิต) คือคติประจำใจของ ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส และเป็นแรงบันดาลใจเบื้องหลังท่าดีใจ “ยักไหล่” อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา… “ใช่ นี่แหละชีวิต และนี่คือสิ่งที่ผมทำ: คุมเกมฟุตบอล จัดการกับมันซะ” – แทงบอล
และพรีเมียร์ลีกก็ได้รับสารนั้นอย่างชัดเจน…
มิดฟิลด์ชาวดัตช์มีบทบาทสำคัญกับทุกประตูของ แมนฯ ซิตี้ ในเกมที่บุกไปถล่ม วูล์ฟส์ 4-0 เขาบัญชาการเกมในประตูแรก, ยิงประตูที่สอง, แอสซิสต์ประตูที่สาม และวิ่งทำทางในประตูที่สี่ จนถูกยกให้เป็นหนึ่งในการประเดิมสนามที่ดีที่สุดเท่าที่ลีกเคยมีมา
แต่ท่ามกลางบรรยากาศที่ดุดันของโมลินิวซ์ สเตเดี้ยม เขากลับทำทุกอย่างได้อย่างเยือกเย็นและเรียบง่าย ราวกับว่าเขายังไม่ได้ใส่เกียร์สามด้วยซ้ำ
เขาทำได้อย่างไร?
ในยุคที่พรีเมียร์ลีกเต็มไปด้วยความเร็วและความแข็งแกร่ง มันไม่ควรจะง่ายแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ทำไมมิดฟิลด์วัย 27 ปี ที่เพิ่งเล่นใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปได้เพียงสองปี ถึงสามารถมาบัญชาการเกมได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงสนาม? และทำไมในตลาดที่ราคาผู้เล่นพุ่งสูงเสียดฟ้า แมนฯ ซิตี้ ถึงได้ตัวเขามาในราคาเพียง 45 ล้านปอนด์?
นี่คือคำถามที่ผู้บริหารของ เอซี มิลาน คงต้องครุ่นคิดอย่างหนัก ปัจจัยสำคัญคือสถานการณ์ทางการเงินของมิลานที่จำเป็นต้องขายผู้เล่นออกไป ประกอบกับความเคารพในตัวนักเตะที่สมควรจะได้เล่นในแชมเปียนส์ลีกทุกปี ทำให้พวกเขาต้องยอมรับข้อเสนอที่เหมาะสม
ร่างโคลนของกุนโดกัน?
อิลคาย กุนโดกัน คือการเซ็นสัญญาคนแรกในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และไม่ว่าเขาจะสังเกตเห็นจากม้านั่งสำรองหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขามี “ร่างโคลน” ของตัวเองในวัยหนุ่มมาเล่นในตำแหน่งที่เคยเป็นของเขาแล้ว
ไรน์เดอร์สไม่เพียงแต่เข้ามาเติมพลังงานที่ขาดหายไปในแดนกลาง แต่เขายังมีความสามารถในการอ่านเกมและรอจังหวะที่เหมาะสมในการจ่ายบอลได้อย่างน่าทึ่ง ประตูแรกคือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด เขาหลอกล่อคู่แข่งด้วยการทำท่าจะจ่ายบอลถึง 4 ครั้ง ก่อนจะใช้ท่า “la croqueta” อันเป็นเอกลักษณ์ของ อันเดรส อิเนียสต้า ลากหลบผู้เล่นสองคนและจ่ายบอลให้ทีมได้ประตูในที่สุด
“C’est la vie” … ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหน วูล์ฟส์คงไม่ใช่ทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่จะต้องตกเป็นเหยื่อความสุดยอดของ ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส ในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน – BK8