เจาะสถิติหลังเกม: “เคลเลเฮอร์” โคตรเซฟ, “เฮนโด้” ของแสลง, และ “แมนยูฯ” กับโรคประจำตัว

BK8 – จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับเกมพรีเมียร์ลีกคู่ระหว่าง เบรนท์ฟอร์ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งผลการแข่งขันอาจสร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอล “ปีศาจแดง” อีกครั้ง และเมื่อมองลึกลงไปในสถิติสำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้น ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่ยังคงแก้ไม่ตกของทีมเยือน และฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเจ้าบ้านได้อย่างชัดเจน

โรคเดิมกำเริบ: ปัญหาเสียประตูก่อนของ “ปีศาจแดง”

ประเด็นแรกที่ตอกย้ำแผลเก่าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสถิติการเสียประตูแรกให้คู่แข่ง โดยนับตั้งแต่ รูเบน อโมริม เข้ามาคุมทีมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ไม่มีทีมใดในพรีเมียร์ลีกที่เสียประตูแรกในเกมการแข่งขันมากครั้งไปกว่าพวกเขาอีกแล้ว (21 เกม) และในเกมนี้ก็เช่นกัน การต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้แผนการที่วางมาต้องสะดุด และเป็นการยืนยันว่า “คำสาป” การไม่ชนะในลีก 2 นัดติดต่อกันยังคงอยู่กับทีมต่อไป

“เคลเลเฮอร์” นายทวารจอมเซฟจุดโทษ

หนึ่งในฮีโร่ของเบรนท์ฟอร์ดในเกมนี้คงหนีไม่พ้น ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการเซฟจุดโทษสำคัญที่ช่วยให้ทีมยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ สถิติได้บันทึกไว้ว่า ตลอดอาชีพการค้าแข้งในลีกสูงสุดกับทั้งลิเวอร์พูลและเบรนท์ฟอร์ด เคลเลเฮอร์สามารถเซฟจุดโทษได้ถึง 4 จาก 7 ครั้งที่ต้องเผชิญ คิดเป็น 57% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งและพิสูจน์ให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของเขาในสถานการณ์ชี้เป็นชี้ตาย

“เฮนเดอร์สัน” ของแสลงที่แท้ทรู

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยังคงสวมบทบาทเป็น “ของแสลง” สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป เมื่อในเกมนี้เขาสามารถทำแอสซิสต์สำคัญได้อีกครั้ง ทำให้สถิติระบุว่า 3 จาก 5 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่เขาลงสนามพบกับแมนฯ ยูไนเต็ด เขาสามารถทำแอสซิสต์ได้ทั้งหมด และที่สำคัญคือทีมของเขาเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะได้ทั้ง 3 นัดรวด ด้วยผลประตูรวมที่ถล่มทลายถึง 15-1

Gtech Community Stadium กลับมาเป็นนรกทีมเยือน

ชัยชนะในนัดนี้ยังเป็นการตอกย้ำว่า Gtech Community Stadium ได้กลับมาเป็น “รังเหย้าสุดแกร่ง” ของเบรนท์ฟอร์ดอีกครั้ง โดยสถิติชี้ว่า พวกเขาชนะเกมเหย้าในพรีเมียร์ลีกได้ถึง 4 จาก 6 นัดหลังสุด (เสมอ 1 แพ้ 1) ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับช่วงก่อนหน้านี้ที่พวกเขาไม่ชนะใครในบ้านตัวเองเลยถึง 8 นัดติดต่อกัน (เสมอ 3 แพ้ 5)

จากสถิติทั้งหมดนี้ สรุปได้ว่าชัยชนะของเบรนท์ฟอร์ดไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งในบ้านและคุณภาพของนักเตะรายบุคคล ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงต้องกลับไปทำการบ้านอย่างหนักเพื่อแก้ไข “โรคประจำตัว” ที่คอยฉุดรั้งพวกเขาอยู่ต่อไป – แทงบอล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ข่าวที่คุณห้ามพลาด