“เพื่อลูก” พอล สโคลส์ อำลาจอทีวี เผยเหตุผลสุดซึ้ง เลือกดูแลลูกชายออทิสติก
BK8 – ในโลกที่เต็มไปด้วยแสงสีและเสียงวิจารณ์ของวงการฟุตบอล พอล สโคลส์ ตำนานมิดฟิลด์ “คลาส ออฟ 92” ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือหนึ่งในเสียงที่เฉียบคมและตรงไปตรงมาที่สุดในฐานะนักวิเคราะห์ทางโทรทัศน์ แต่บัดนี้ แฟนบอลจะไม่ได้เห็นเขาบนหน้าจออีกต่อไป… ด้วยเหตุผลที่ยิ่งใหญ่และลึกซึ้งกว่าถ้วยรางวัลใดๆ ที่เขาเคยได้รับ – แทงบอล
ณ วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2025 สโคลส์ วัย 50 ปี ได้เปิดเผยว่าเขาได้ตัดสินใจ “ก้าวถอย” จากงานวิเคราะห์เกมให้กับ TNT Sports เพื่ออุทิศเวลาทั้งหมดให้กับ เอเดน ลูกชายวัย 20 ปี ผู้ซึ่งต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
เอเดนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติกชนิดไม่สามารถสื่อสารด้วยคำพูด (Non-verbal autism) ตั้งแต่ยังเด็ก และสำหรับสโคลส์แล้ว “กิจวัตร” ของลูกชายคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาในตอนนี้
“ผมเพิ่งตัดสินใจในปีนี้เพราะ เอเดน” สโคลส์เปิดใจในรายการ The Overlap “ด้วยความต้องการพิเศษของเขา งานทั้งหมดที่ผมทำในตอนนี้จึงต้องวนอยู่รอบๆ กิจวัตรของเขา เพราะเขามีกิจวัตรที่เข้มงวดมากในทุกๆ วัน”
สโคลส์เล่าถึง “กิจวัตรแห่งความสุข” ที่เขาสร้างขึ้นร่วมกับลูกชายและอดีตภรรยาอย่างน่าประทับใจ “เอเดนไม่รู้หรอกว่าวันนี้คือวันอะไรหรือเวลาไหน แต่เขาจะรู้ได้จากสิ่งที่เราทำ” “ผมไปรับเขาทุกวันอังคาร… เราไปว่ายน้ำ เขาชอบว่ายน้ำมาก แล้วเราก็ซื้อพิซซ่ากลับบ้าน วันพฤหัสบดี ผมไปรับเขา เราไปหาอะไรกินกัน แล้วก็กลับบ้าน วันอาทิตย์ ผมไปรับเขาจากบ้านแคลร์ (อดีตภรรยา) เราไปเทสโก้ ที่นั่นเขาจะซื้อช็อกโกแลตเต็มรถเข็น… เขารู้ว่าวันนี้คือวันอะไรจากสิ่งที่เราทำ”
เบื้องหลังรอยยิ้ม: ความเจ็บปวดที่ไม่มีใครรู้ สโคลส์ยอมรับว่าการรับมือกับอาการของลูกชายไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อ เอเดน ไม่สามารถสื่อสารความเจ็บปวดออกมาเป็นคำพูดได้ “เขาไม่สามารถบอกคุณได้ว่ามีอะไรผิดปกติหรือเจ็บปวดตรงไหน” สโคลส์เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ที่ฝังใจ “ปีที่แล้วมีครั้งหนึ่งที่เขาเอามือจับปากตัวเองตลอดเวลาและนอนไม่หลับ ผมไม่รู้เลยว่าเขาเป็นอะไร ผมเอายาชาทาปากให้เขา… มันเป็นแบบนั้นอยู่ 8-9 เดือน ลองนึกภาพว่าคุณปวดฟันนาน 9 เดือนสิ”
สุดท้าย เขาต้องพาเอเดนไปหาทันตแพทย์สำหรับผู้มีความต้องการพิเศษ ซึ่งต้องใช้วิธีดมยาสลบเพื่อทำการรักษา “ปากของเขาเละไปหมด”
การต่อสู้ที่ต้องแบกรับตั้งแต่สมัยค้าแข้ง ตำนานมิดฟิลด์ผู้นี้ยังยอมรับว่า การต้องรับมือกับสถานการณ์นี้ในขณะที่ยังเป็นนักเตะอาชีพนั้น “หนักหนาสาหัส” อย่างยิ่ง “คุณไม่มีวันได้หยุดพักจากมันเลย” เขากล่าว “ผมจำได้ว่ามีเกมหนึ่งที่เราต้องไปเยือน ดาร์บี้ และผมไม่อยากไปอยู่ที่นั่นเลย ผมจำได้ว่าผู้จัดการทีม [เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน] ดร็อปผมในสัปดาห์ถัดมา และผมก็ยังไม่ได้บอกใครเลยในตอนนั้น”
เรื่องราวของ พอล สโคลส์ ในวันนี้ จึงเป็นมากกว่าแค่ข่าวการอำลาจอทีวี แต่มันคือบทพิสูจน์ถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของ “พ่อ” คนหนึ่ง ผู้ซึ่งเคยคว้าแชมป์มาแล้ว 25 รายการ แต่กลับเลือกที่จะวางทุกอย่างลง เพื่ออุทิศตนให้กับ “กิจวัตร” ที่เรียบง่าย แต่มีความหมายมากที่สุดในชีวิตของเขาและลูกชาย… เอเดน
