เมื่อระบบที่สมบูรณ์แบบ ได้เจอกับเวทมนตร์: เอเซ่ คือกุญแจดอกสุดท้ายที่ อาร์เตต้า ตามหามาตลอด
BK8 – หากย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน หลังความพ่ายแพ้ต่อ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เอียน ไรท์ ตำนานดาวยิงปืนใหญ่เคยหล่นวาทะสำคัญไว้ว่า “เราต้องการใครสักคนที่มี X-Factor… เราต้องหาคนคนนั้นให้เจอ เพราะนั่นคือสิ่งที่ตัดสินเกมระดับนี้” – แทงบอล
วันนี้ ดูเหมือนว่า มิเกล อาร์เตต้า จะค้นพบคนคนนั้นแล้ว
เอเบเรชี่ เอเซ่ ไม่ได้เป็นเพียงแค่นักเตะใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มขุมกำลัง แต่วีรกรรม “แฮตทริก” ใส่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในศึกนอร์ทลอนดอนดาร์บี้ที่ผ่านมา คือเครื่องยืนยันว่าเขาคือ “ตัวเปลี่ยนเกม” (Gamechanger) ที่อาร์เซนอลขาดหายไปนาน
มากกว่าแค่ระบบ คือจินตนาการ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อาร์เซนอลของอาร์เตต้าขึ้นชื่อเรื่องระบบการเล่นที่รัดกุม การเพรสซิ่งที่ดุดัน และลูกเซตพีซอันตราย แต่สิ่งที่พวกเขามักจะขาดไปในเกมที่ตื้อๆ คือ “ความสามารถเฉพาะตัวที่จะฉีกแนวรับคู่แข่งเป็นชิ้นๆ”
ในเกมกับสเปอร์ส เอเซ่แสดงให้เห็นถึงสิ่งนั้น เลส เฟอร์ดินานด์ อดีตโค้ชของเขาที่ QPR เคยบอกว่าเอเซ่เล่นเหมือน “ดึงเบรกมือ” ไว้ในช่วงแรกกับปืนใหญ่ แต่วันนี้เบรกมือนั้นถูกปลดออกแล้ว เขาได้รับอิสระในการสร้างสรรค์เกม และเปลี่ยนโอกาสยิง 6 ครั้ง ให้กลายเป็น 3 ประตู
บททดสอบที่แท้จริง: บาเยิร์น มิวนิค อย่างไรก็ตาม การถล่มสเปอร์สเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การรับมือ บาเยิร์น มิวนิค ในคืนวันพุธนี้ คือหนังคนละม้วน แฟนปืนใหญ่ยังคงหลอนกับสกอร์รวม 10-2 ในปี 2017 และความพ่ายแพ้เมื่อปี 2024
บาเยิร์นของ แว็งซองต์ กอมปานี ในฤดูกาลนี้ยังไร้พ่ายและเพิ่งสะดุดเสมอไปแค่นัดเดียว นี่จะเป็นบททดสอบที่สำคัญที่สุดว่า “ออร่า” ของเอเซ่ ที่อาร์เตต้าพูดถึง จะเปล่งประกายในเวทียุโรปได้หรือไม่
ปัญหาที่น่าปวดหัว (แต่มีความสุข) การกลับมาของ มาร์ติน โอเดการ์ด กัปตันทีมคนเก่ง อาจทำให้เกิดคำถามเรื่องการจัดทัพ เธียร์รี่ อองรี กูรูคนดังมองว่า “เอเซ่ คือเบอร์ 10 ไม่ใช่ปีก” การจะจับทั้ง โอเดการ์ด และ เอเซ่ ลงพร้อมกัน อาจเป็นโจทย์ยากของอาร์เตต้า แต่ในสมรภูมิที่โปรแกรมชุกแบบนี้ การมี “เพลย์เมกเกอร์ระดับโลก” ถึง 2 คน ย่อมดีกว่าคนเดียวเสมอ
วันพุธนี้ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม จะไม่ใช่แค่เกมรอบแบ่งกลุ่มธรรมดา แต่มันคือการประกาศศักดาว่า อาร์เซนอล พร้อมแล้วที่จะก้าวข้าม “เสือใต้” ด้วยอาวุธใหม่ที่ชื่อว่า เอเบเรชี่ เอเซ่
