1 ปีแห่งมรสุมและความหวัง: เจาะลึกชีวิต “รูเบน อโมริม” ที่แมนยูฯ จากค่ำคืนอัปยศที่กริมสบี้ สู่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
BK8thai – ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2024 ที่พอร์ตแมน โร้ด ผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างพากันสงสัยว่ากุนซือคนใหม่ของพวกเขาหายไปไหนหลังจบเกมเสมอ อิปสวิช 1-1… คำตอบคือ เขากำลังเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องแต่งตัว เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะเผชิญหน้ากับสื่อ – แทงบอล
นั่นคือนิสัยเฉพาะตัวของ รูเบน อโมริม กุนซือหนุ่มวัย 39 ปี ที่เลือกจะ “ไม่ด่ากราด” ทันทีหลังจบเกม (ยกเว้นบางนัดที่เหลืออดจริงๆ) แต่เลือกที่จะรับหน้าสื่อ และเดินไปขอบคุณแฟนบอลเพียงลำพังเมื่อทีมแพ้ เพื่อรับแรงกระแทกแทนลูกทีม
จุดต่ำสุดที่กริมสบี้ หากจะหาคำจำกัดความปีแรกของอโมริม คำว่า “รสไฟ” คงน้อยไป เพราะเขาต้องเจอกับมรสุมลูกใหญ่ที่สุดคือ ความพ่ายแพ้ต่อ กริมสบี้ ทาวน์ ในคาราบาว คัพ ค่ำคืนนั้นผู้บริหารอย่าง โอมาร์ เบอร์ราดา และ เจสัน วิลค็อกซ์ ต้องนั่งรถฝ่าการจราจรกลับบ้านด้วยความอับอาย พนักงานบางคนในสโมสรคิดว่าชะตาของอโมริมขาดสะบั้นแล้ว แต่บอร์ดบริหารยังคงยืนกรานคำเดิม: “เราต้องอดทน”
มรดกเลือดและการเปลี่ยนแปลง อโมริม เข้ามารับงานในช่วงที่สโมสรกำลัง “โกลาหล” ทั้งการปลดพนักงาน 450 คน สนามซ้อมแคร์ริงตันที่เหมือนเขตก่อสร้าง และนักเตะที่หมดใจ เขาถึงขั้นทะเลาะกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด (ที่ปัจจุบันถูกปล่อยยืมไปบาร์เซโลน่า) โดยบอกว่าจะยอมส่งโค้ชผู้รักษาประตูวัย 63 ปีลงสนามดีกว่าส่งเขาลงเล่น!
แสงสว่างจากความพ่ายแพ้ แม้จะจบอันดับ 15 ในฤดูกาลแรก และพ่ายนัดชิงยูโรป้า ลีก ต่อสเปอร์ส แต่ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ยังคงเชื่อมั่นใน “Passion” ของอโมริม ปีนี้ (ฤดูกาล 2025-26) ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง การมาของแข้งใหม่ที่คัดด้วย Data อย่าง ไบรอัน เอ็มเบวโม่, มาเธอุส กุนญ่า และ เบนจามิน เซสโก้ (ที่ยอมปัดนิวคาสเซิลเพราะใจรักผี) เริ่มส่งผลให้เห็น บรรยากาศในทีมดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา อโมริมสร้าง “กลุ่มผู้นำ” ในทีม และเน้นกฎเหล็กเรื่องการใส่ใจแฟนบอล
วันนี้ อโมริม ยังคงพาทีมเดินหน้าด้วยสถิติไร้พ่ายต่อเนื่อง แม้หนทางข้างหน้ายังยาวไกล แต่จากซากปรักหักพังที่กริมสบี้ ดอกไม้แห่งความหวังได้เริ่มผลิบานแล้วที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ภายใต้การนำของชายชาวโปรตุกีสผู้นี้
