ถอดรหัส 3-4-3: ‘อโมริม’ เรียนรู้ ‘กลาสเนอร์’ ได้หรือไม่? กุญแจสู่ชัยชนะแมนยู ที่ แอนฟิลด์

BK8 – โอลิเวอร์ กลาสเนอร์, อาร์เน่ สล็อต, รูเบน อโมริม… สามกุนซือพรีเมียร์ลีกผู้แตกต่าง แต่กำลังเผชิญหน้ากับวังวนแห่งความคาดหวังและปริศนาทางแท็กติกที่คล้ายคลึงกัน – แทงบอล
กลาสเนอร์อาจเพิ่งพา คริสตัล พาเลซ เสียสถิติไร้พ่ายอันยาวนาน แต่เขาก็ยังคงได้รับการยกย่อง สล็อตกำลังพยายามหลอมรวมแข้งใหม่เข้ากับทีมแชมป์เก่าลิเวอร์พูลที่ดูเหมือนจะขาดความเกรี้ยวกราดไปบ้าง และ อโมริม… กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่สามารถพาทีมคว้าชัยชนะในลีก 2 นัดติดต่อกันได้เลยตลอด 34 เกมที่คุมทีม แต่ก็ยังคงมีความหวังที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ในศึกแดงเดือดวันอาทิตย์นี้
ณ วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2025 คำถามสำคัญคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสามารถบุกไปคว้าชัยชนะที่แอนฟิลด์ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 ได้หรือไม่? และที่สำคัญกว่านั้นคือ ชัยชนะของ คริสตัล พาเลซ เหนือลิเวอร์พูลเมื่อเดือนก่อน จะสามารถกลายเป็น “พิมพ์เขียว” ให้กับอโมริมและทีมอื่นๆ ที่ใช้ระบบ 3-4-3 ได้หรือไม่?
ความเหมือนที่แตกต่าง: 3-4-3 ฉบับ กลาสเนอร์ vs อโมริม แม้จะใช้แผนการเล่นตั้งต้นเหมือนกัน แต่ “เจตนา” ทางแท็กติกของทั้งสองคนกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
- กลาสเนอร์ (พาเลซ): เน้นความรัดกุม ไม่เน้นการครองบอล (เฉลี่ย 41.3% ต่ำสุดอันดับ 3 ของลีก) แต่สร้างทีมให้เป็นหน่วยป้องกันที่แข็งแกร่ง และพร้อมที่จะโต้กลับอย่างรวดเร็วผ่านพื้นที่ตรงกลางสนาม
- อโมริม (แมนฯ ยูไนเต็ด): ต้องการเป็น “พระเอก” ของเกม ต้องการควบคุมการครองบอล (เฉลี่ย 53%) และเล่นเกมรุกในแดนคู่แข่ง พยายามใช้แผงหลัง 5 คนในการดึงคู่แข่งให้เข้ามาเพรสซิ่งเพื่อสร้างพื้นที่ด้านหลัง และเน้นการโจมตีทางช่อง (Channels) โดยอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของวิงแบ็กหรือตัวรุกในการเอาชนะคู่แข่ง
ปัญหาคือ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคอโมริม ยังคงมี “สี่เหลี่ยมที่ไม่เข้ามุม” อยู่หลายจุด ผู้เล่นหลายคนอาจยังไม่ตอบโจทย์แท็กติกที่ซับซ้อนนี้ได้ดีเท่ากับนักเตะพาเลซในระบบของกลาสเนอร์
บทเรียนจากเซลเฮิร์สต์ พาร์ค สู่แอนฟิลด์? ชัยชนะ 2-1 ของพาเลซเหนือลิเวอร์พูลเมื่อเดือนกันยายน ได้มอบบทเรียนสำคัญที่อโมริมอาจนำมาปรับใช้ได้:
- ตั้งรับในแดนกลางอย่างดุดัน (Aggressive mid-block): พาเลซไม่ได้ถอยไปตั้งรับลึก แต่เลือกที่จะรอให้ลิเวอร์พูลพาบอลมาถึงกลางสนามแล้วค่อยเข้าแย่งชิงอย่างหนักหน่วง ซึ่งทำลายจังหวะการสร้างเกมของหงส์แดงได้เป็นอย่างดี
- ตัดท่อน้ำเลี้ยง: กองหน้าสามคนของพาเลซยืนตำแหน่งค่อนข้างแคบ เพื่อปิดช่องทางการจ่ายบอลไปยังกองกลางตัวเชื่อมเกมของลิเวอร์พูล (ในเกมนั้นคือ ไรอัน กราเฟนแบร์ก) ทำให้หงส์แดงไม่สามารถลำเลียงบอลขึ้นหน้าได้อย่างไหลลื่นเหมือนเคย
- ใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของผู้รักษาประตู: จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ ผู้รักษาประตูมือสองของลิเวอร์พูล (ลงแทน อลีสซง ที่เจ็บ) ถนัดเท้าซ้าย แต่กลับได้รับบอลทางเท้าขวาบ่อยครั้ง ซึ่งจังหวะที่เขาต้องแต่งบอลเข้าเท้าถนัด คือ “โอกาสทอง” เล็กๆ ในการเข้าเพรสซิ่งกดดัน
อโมริมแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาพร้อมจะปรับเปลี่ยนแท็กติก ดังเช่นในเกมล่าสุดที่ชนะซันเดอร์แลนด์ ซึ่งตัวรุกของทีมยืนตำแหน่งใกล้กันมากขึ้นและช่วยกันป้องกันอย่างเป็นระบบมากขึ้น คล้ายคลึงกับแนวทางของกลาสเนอร์
เดิมพันที่แอนฟิลด์ อโมริมเข้าใจดีว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถเล่นเกมรับเต็มรูปแบบเหมือนที่เขาเคยทำกับสปอร์ติ้ง ลิสบอนได้ ด้วยความคาดหวังและสถานะของสโมสร แต่การผสมผสานระหว่าง “ปรัชญาการครองบอล” ของตัวเองเข้ากับ “บทเรียนเกมรับ” จากกลาสเนอร์ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างเซอร์ไพรส์ที่แอนฟิลด์
นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่สุดของอโมริมที่จะสร้าง “Statement Win” เพื่อเรียกศรัทธาจากแฟนบอลกลับคืนมา และเดิมพันครั้งนี้… มันสูงค่ากว่าแค่ 3 คะแนน