“คาร์ราเกอร์” ออกโรง! ผนึกกำลัง “เนวิลล์” วิจารณ์สังคมอังกฤษแตกแยก ชี้ต้นตอความโกรธ
BK8 – ดูเหมือนว่าสนามรบของสองตำนานคู่ปรับอย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ และ แกรี่ เนวิลล์ จะไม่ได้จำกัดอยู่แค่การวิเคราะห์แท็กติกฟุตบอลข้างสนามอีกต่อไป เมื่อล่าสุด คาร์ราเกอร์ ตำนานของลิเวอร์พูล ได้ออกมาแสดงทัศนะสนับสนุน แกรี่ เนวิลล์ อย่างเต็มตัว ในประเด็นทางสังคมที่กำลังร้อนระอุและเปราะบางที่สุดในอังกฤษ – แทงบอล
ณ วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2025 ประเด็นนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากเหตุการณ์อันน่าสลดในแมนเชสเตอร์ (การโจมตีโบสถ์ยิว) แกรี่ เนวิลล์ ได้ออกมาวิจารณ์ “ความแตกแยก” ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศอย่างเผ็ดร้อน โดยชี้เป้าไปว่าส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่ม “ชายผิวขาววัยกลางคนที่กำลังโกรธเกรี้ยว”
คำพูดของเนวิลล์กลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืนและสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง แต่แทนที่จะนิ่งเฉย คาร์ราเกอร์กลับเลือกที่จะออกมาขยายความในประเด็นนี้
ในการปรากฏตัวผ่านรายการ LBC ตำนาน “หงส์แดง” ได้ยอมรับว่าเขารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่น่ากังวลในสังคมเช่นกัน “แกรี่ (เนวิลล์) อย่างที่คุณพูด เขาเป็นคนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองมากกว่าผม” คาร์ราเกอร์เริ่มต้น “แต่ผมก็รู้สึกแบบนั้น ไม่ต้องสงสัยเลย… มันให้ความรู้สึกเหมือนประเทศกำลังเต็มไปด้วยความโกรธ และมันรู้สึกแตกแยกมาก”
คาร์ราเกอร์ได้เจาะลึกลงไปถึงต้นตอของความโกรธเกรี้ยวนี้ โดยเชื่อมโยงไปถึงประเด็นที่ใหญ่กว่านั้น นั่นคือปัญหา “เรือเล็ก” (Small boats) หรือวิกฤตผู้ลี้ภัยข้ามช่องแคบอังกฤษ และผลพวงที่ตามมาจากการตัดสินใจ Brexit
“มันไม่ใช่แค่เรื่องของรัฐบาลแรงงานในปัจจุบัน มันอาจจะย้อนกลับไปถึงรัฐบาลอนุรักษ์นิยม เกี่ยวกับผู้คนที่เดินทางเข้ามาด้วยเรือและอะไรทำนองนั้น” “ผมจำไม่ได้เลยว่าประเทศเคยเป็นแบบนี้มาก่อน” เขากล่าว “ผมแค่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ Brexit… ผมคิดว่า Brexit คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ และมันอาจจะได้รับการพิสูจน์แล้วว่า (ความคิดของผม) ถูกต้อง”
นี่คือช่วงเวลาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เมื่อสองนักวิเคราะห์ฟุตบอลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ ผู้ซึ่งเป็นตัวแทนของสองสโมสรที่เป็นอริกันตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับเลือกที่จะ “วางดาบ” ชั่วคราว และหันมาจับมือกันเพื่อส่งเสียงสะท้อนถึงปัญหาที่ใหญ่กว่าเกมฟุตบอล
มันคือบทบาทใหม่ของ “ผู้นำทางความคิด” ที่ก้าวข้ามเส้นแบ่งของสนามหญ้า และใช้สถานะ “ตำนานนักเตะ” ของพวกเขาเพื่อพูดถึงความจริงอันน่าอึดอัดที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม

