จากห้องเครื่องสู่เพชรฆาต! “เมริโน่” ร่างทองสวมบท “หน้าเป้า” ขัดตาทัพฟอร์มดุ กดดัน “เยอเคเรส” นั่งสำรองยาว?
BK8thai – เมื่อครั้งที่ มิเกล เมริโน่ ย้ายจาก เรอัล โซเซียดาด มาร่วมทัพ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ในเดือนสิงหาคม 2024 ภาพจำของเขาคือกองกลางเชิงสูง ดีกรีแชมป์ยูโร ที่จะมาบัญชาเกมแดนกลาง ไม่มีใครคาดคิดแม้แต่น้อยว่า อีกหนึ่งปีต่อมา เราจะมานั่งถกเถียงกันว่า “เขาควรยึดตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าถาวรหรือไม่?” – แทงบอล
ล่าสุดในเกมที่เสมอกับ เชลซี 1-1 เมริโน่ พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าสัญชาตญาณการทำประตูของเขาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แม้จะต้องลงเล่นในบทบาท “กองหน้าจำเป็น” (Makeshift Striker) แทนที่บรรดาตัวเจ็บอย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์, กาเบรียล เชซุส และ วิคเตอร์ เกียวเคเรส แต่เขากลับทำผลงานได้เนียนตาราวกับเล่นตำแหน่งนี้มาทั้งชีวิต
Havertz Model 2.0: สูตรสำเร็จของ อาร์เตต้า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ มิเกล อาร์เตต้า ปั้นกองกลางให้กลายเป็นกองหน้า ก่อนหน้านี้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ก็เคยถูกจับมายืนค้ำหน้าจนแจ้งเกิดใหม่มาแล้ว และดูเหมือน เมริโน่ จะมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน ทั้งความฉลาดในการเคลื่อนที่ สรีระร่างกาย และความเยือกเย็นหน้าปากประตู
สถิติเจ้าเวหาที่น่าทึ่ง สิ่งที่ เมริโน่ แตกต่างจากกองหน้าทั่วไปคือ “ลูกโหม่ง” สถิติระบุว่าในปี 2025 เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดในพรีเมียร์ลีกของอาร์เซนอลด้วยจำนวน 8 ประตู โดย 5 ลูกในนั้นมาจากการโหม่ง! ความแม่นยำในการเล่นลูกกลางอากาศของเขา (7 ใน 10 ประตูในพรีเมียร์ลีกมาจากศีรษะ) ทำให้เขามีสถิติเทียบเท่ากับ เจมส์ สคาวครอฟต์ อดีตกองหน้าเลสเตอร์และอิปสวิช ที่มีอัตราส่วนการทำประตูด้วยลูกโหม่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (สำหรับผู้เล่นที่ไม่ใช่กองหลัง)
เกียวเคเรส กลับมา… แล้วไงต่อ? ประเด็นที่น่าหนักใจ (แบบมีความสุข) ของ อาร์เตต้า คือการกลับมาฟิตสมบูรณ์ของ วิคเตอร์ เกียวเคเรส กองหน้าค่าตัว 64 ล้านปอนด์ แม้ดาวยิงชาวสวีเดนจะมีสถิติถล่มประตูที่โปรตุเกสอย่างบ้าคลั่ง แต่สไตล์การเล่นของเขาเน้นการใช้พละกำลังทะลุทะลวง ซึ่งต่างจากเมริโน่
เมริโน่ มักจะถอยลงต่ำมาเชื่อมเกม (False 9) ดึงตัวประกบ เปิดพื้นที่ให้ปีกอย่าง เลอันโดร ทรอสซาร์ หรือ เอเบเรชี่ เอเซ่ (ที่เพิ่งกดแฮตทริกใส่สเปอร์ส) สอดเข้าไปทำประตู ซึ่งระบบนี้ดูจะทำให้เกมรุกของปืนใหญ่ลื่นไหลและคาดเดายากกว่า
ความอันตรายที่เรียนรู้ได้ เมริโน่ ยอมรับว่าเขาพยายามเรียนรู้จากกองหน้าคนอื่นๆ และถามเทคนิคการยืนตำแหน่งจากเพื่อนร่วมทีมเสมอ อาร์เตต้ากล่าวชื่นชมว่าลูกทีมคนนี้ “ได้กลิ่นของอันตราย” (Smell danger) เสมอ
เกมต่อไปที่จะพบกับ เบรนท์ฟอร์ด และช่วงโปรแกรมโหดส่งท้ายปี จะเป็นบททดสอบสำคัญ หาก เมริโน่ ยังรักษาฟอร์มระเบิดเถิดเทิงแบบนี้ไว้ได้ ไม่แน่ว่า “หน้าเป้าจำเป็น” อาจจะกลายเป็น “หน้าเป้าถาวร” และ เกียวเคเรส อาจต้องเจองานหนักในการแย่งตำแหน่งคืน
