ช่องโหว่ที่ เทรนท์ ทิ้งไว้! เจาะลึก ‘หลุมดำ’ กลางแอนฟิลด์ ก่อนลิเวอร์พูลรับศึกแดงเดือด
BK8 – การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วอาจดูเหมือนง่ายดาย แต่การเดินทางของลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2025-26 กลับเต็มไปด้วยขวากหนาม แม้จะทุ่มเงินกว่า 416 ล้านปอนด์คว้าดาวดังอย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัค, ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ และ อูโก้ เอกิติเก้ เข้ามาเสริมทัพ แต่การพ่ายแพ้ 3 นัดติดต่อกันก่อนพักเบรกทีมชาติ ก็ได้สร้างคำถามใหญ่ขึ้นมา… หรือว่าการจากไปของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กำลังส่งผลกระทบต่อทีมมากกว่าที่คิด? – แทงบอล
ณ วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2025 ก่อนศึกแดงเดือดครั้งสำคัญจะเริ่มต้นขึ้น การวิเคราะห์เชิงลึกได้เผยให้เห็นว่า “ช่องโหว่” ที่แบ็กขวาอัจฉริยะผู้นี้ทิ้งไว้ ไม่ได้มีแค่เรื่องของ 18 ประตู กับ 64 แอสซิสต์ที่หายไป แต่มันคือ “มิติทางแท็กติก” ที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก
1. ปัญหาการ Build-up เมื่อเจอ High Press หนึ่งในอาวุธลับที่ถูกมองข้ามของเทรนท์คือความสามารถในการ “เล่นบอลด้วยเท้าซ้าย” ได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งนี้ทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดจากการเพรสซิ่งสูงของคู่แข่ง และจ่ายบอลทะลุช่องเข้ากลางสนามได้อย่างแม่นยำ แม้จะถูกบีบให้หันหน้าเข้าในก็ตาม
แต่เมื่อมองมาที่แบ็กขวาในปัจจุบัน ทั้ง คอเนอร์ แบรดลี่ย์ และ เยเรมี่ ฟริมปง ต่างก็ไม่ถนัดในการใช้เท้าซ้าย ทำให้เมื่อเจอกับสถานการณ์เดียวกัน พวกเขามักจะเลือกจ่ายบอลคืนหลัง ซึ่งเป็นการ “รีเซ็ต” การขึ้นเกม และทำให้ทีมเสียเวลาในการเจาะแนวรับคู่แข่ง
2. การวางบอลยาว และ “สวิตช์” ที่หายไป เทรนท์คือหนึ่งในผู้เล่นที่วางบอลยาวและเปลี่ยนแกน (Switch Play) ได้ดีที่สุดในโลก ความสามารถในการวางบอลข้ามฟากอย่างแม่นยำด้วยเท้าทั้งสองข้าง คืออาวุธสำคัญในการฉีกแนวรับคู่แข่งที่ตั้งรับลึก และเปิดพื้นที่ให้ปีกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้เล่นงานคู่แข่ง
สถิติบ่งชี้ชัดเจน: ฤดูกาลที่แล้วลิเวอร์พูลมีค่าเฉลี่ยการสวิตช์บอล 3.4 ครั้งต่อเกม แต่ฤดูกาลนี้ลดลงเหลือเพียง 1.3 ครั้ง! การขาดหายไปของเทรนท์ ทำให้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กลายเป็นกองหลังเพียงคนเดียวที่สามารถวางบอลยาวได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทดแทนมิติที่หายไปนี้ได้
3. ผลกระทบเป็นทอดๆ: เวิร์ตซ์ลงต่ำ & ซาลาห์เล่นยากขึ้น เมื่อการขึ้นเกมจากแนวหลังติดขัด มันก็ส่งผลกระทบต่อผู้เล่นในแดนกลางและแดนหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ที่ควรจะสร้างสรรค์เกมในพื้นที่สุดท้าย กลับต้องถอยลงมาต่ำเพื่อล้วงบอลมากขึ้น ซึ่งเป็นการลดทอนประสิทธิภาพในเกมรุกของเขาลงไป
ขณะเดียวกัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เมื่อการขึ้นเกมที่ช้าลง ทำให้คู่แข่งมีเวลาถอยลงไปตั้งรับลึกและปิดพื้นที่ว่าง ส่งผลให้เขาต้องรับบอลในสถานการณ์ที่หันหลังให้ประตูและโดนประกบติดมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่สไตล์การเล่นที่เขาถนัด
แมนฯ ยูไนเต็ด จะฉวยโอกาสนี้ได้อย่างไร? รูเบน อโมริม อาจมองเห็น “จุดอ่อน” เหล่านี้ และเลือกใช้แท็กติกที่เน้นการตั้งรับลึกในระบบ 5-4-1 เพื่อบีบให้ลิเวอร์พูลต้องขึ้นเกมผ่านเซ็นเตอร์แบ็กที่ไม่ถนัดในการเจาะแนวรับที่หนาแน่น และปิดพื้นที่ตรงกลางเพื่อผลักให้เวิร์ตซ์ต้องลงมาต่ำ การขาดหายไปของการสวิตช์บอลก็จะยิ่งทำให้การเจาะบล็อกแนวรับ 5 คนทำได้ยากขึ้นไปอีก
ศึกแดงเดือดครั้งนี้ จึงเป็นบททดสอบครั้งสำคัญของ อาร์เน่ สล็อต ว่าเขาจะสามารถหา “คำตอบ” ให้กับ “ช่องโหว่รูปทรงเทรนท์” นี้ได้อย่างไร และมันจะเป็นตัวชี้วัดว่าลิเวอร์พูลยุคใหม่ จะสามารถก้าวข้ามเงาของอดีต และกลับมาแข็งแกร่งได้อย่างแท้จริงหรือไม่
