อดัม ลัลลานา: จาก “ลูกรักคล็อปป์” สู่เส้นทางโค้ชที่เตรียมพาเซาแธมป์ตัน ล้มยักษ์ ลิเวอร์พูล

BK8 – ครั้งหนึ่ง ความรู้สึกประหม่าตื่นเต้นของ อดัม ลัลลานา อาจจะเกิดขึ้นก่อนเกมฟุตบอลโลกนัดชี้ชะตา หรือในอุโมงค์ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แต่ในวันนี้ ความรู้สึก “ผีเสื้อบินในท้อง” แบบเดียวกันกลับเกิดขึ้นทุกครั้งที่ วิลล์ สติลล์ ผู้จัดการทีมเซาแธมป์ตัน เอ่ยปากขอให้เขาลงไปคุมซ้อม

การแขวนสตั๊ดของมิดฟิลด์วัย 37 ปี เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว อาจเป็นการปิดฉากอาชีพนักเตะที่น่าจดจำ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็คือการเปิดฉากบทใหม่บนเส้นทางสายโค้ชที่เริ่มต้นขึ้นทันที แม้หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าวันนี้เขากำลังทำอะไรอยู่

“เมื่อผู้จัดการทีมขอให้ผมคุมซ้อม หรือแค่ผมคิดถึงเซสชั่นการซ้อม ผมจะรู้สึกถึงผีเสื้อในอกทันที” ลัลลานาเผย “ผมต้องเตรียมตัว ผมอยากให้มันออกมาสมบูรณ์แบบ… ผมคิดว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีนะ เพราะมันคือการก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน และนั่นคือจุดที่ผมจะได้เรียนรู้”

ในคืนวันอังคารที่จะถึงนี้ ลัลลานาจะได้กลับไปเยือนแอนฟิลด์ สนามที่เคยเปรียบเสมือนความฝันของเขา แต่ครั้งนี้เขาจะกลับมาในฐานะทีมงานของเซาแธมป์ตัน คู่แข่งในศึกคาราบาว คัพ รอบที่สาม ที่หวังจะสร้างประวัติศาสตร์ล้มยักษ์ให้ได้

ลัลลานาได้ใช้เวลาช่วงสั้นๆ พักจากฟุตบอลไปสองเดือน แต่ก็พบว่าตัวเองอยู่ไม่สุข “ผมพบว่าตัวเองไปอยู่ในสวนตอน 11 โมงเช้า แล้วก็คิดว่า ‘ปกติเวลานี้เราไม่เคยมาอยู่ตรงนี้นี่นา!'” เขาเล่าพร้อมเสียงหัวเราะ “ผมยังคงรักเกมฟุตบอล และการเป็นโค้ชก็คือการได้ช่วยเหลือนักเตะ”

แน่นอนว่าหนึ่งในอิทธิพลสำคัญบนเส้นทางโค้ชของเขาคือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมที่เคยร่วมงานกันจนประสบความสำเร็จสูงสุด ลัลลานาเล่าย้อนไปถึงตอนที่เขานั่งวิเคราะห์เกมที่ลิเวอร์พูลเฉือนชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เมื่อปี 2016 ร่วมกับนักวิเคราะห์ของเซาแธมป์ตัน

“ทันทีที่ดู ผมก็แบบ ‘โอ้พระเจ้า นี่มันคือทีมของเจอร์เก้นชัดๆ'” ลัลลานาเล่า “เราเล่น 4-3-3, คุมโซน, เคาน์เตอร์เพรสซิ่ง มันคือปรัชญาของเจอร์เก้น มันคือฟุตบอลที่บ้าคลั่ง และนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ”

“การได้เริ่มก้าวแรกในงานโค้ชทำให้ผมยิ่งซาบซึ้งในสิ่งที่เจอร์เก้นทำ การจัดการสโมสรที่ยิ่งใหญ่แบบลิเวอร์พูลมาอย่างยาวนานพร้อมกับความกดดันมหาศาล… ในฐานะผู้เล่น คุณอาจจะหงุดหงิดที่ไม่ได้ลงสนาม แต่คุณไม่เคยคิดถึงการตัดสินใจทั้งหมดที่เขาต้องทำ หรือผู้เล่นอีก 24 คนที่เขาต้องดูแล”

“ผมรู้ว่าผมมีบทบาทสำคัญในยุคของเจอร์เก้น และผมภูมิใจกับมันมาก ผมอาจจะไม่ใช่ผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดช่วงเวลาของเขา แต่ผมเคยเป็น ‘คนของเจอร์เก้น’ (Jürgen’s guy) อยู่ช่วงหนึ่ง ผมคือคนของเขา และผมมีความสุขมากที่ได้พูดแบบนั้นในวันนี้ บางทีร่างกายผมอาจจะเจ็บปวดไปบ้าง และไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อฟุตบอลเฮฟวี่เมทัลแบบเต็มเวลา แต่ผมก็จะไม่ขอแลกประสบการณ์เหล่านั้นกับอะไรทั้งสิ้น”

การกลับมาแอนฟิลด์ครั้งนี้จึงเป็นการกลับมา “บ้านทางเหนือ” ของเขาอีกครั้ง แต่ในบทบาทที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง และเป็นบททดสอบแรกๆ บนเส้นทางสายใหม่ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง – แทงบอล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ข่าวที่คุณห้ามพลาด