เมื่อ “ตัวจริง” สำคัญกว่า “ตัวปิดเกม”: อาร์เตต้า พลาดมหันต์ที่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดลอยไป

BK8 – “ผมพอใจกับเหล่า ‘ตัวปิดเกม’ ของเรา” มิเกล อาร์เตต้า กล่าวหลังจบเกมที่อาร์เซน่อลไล่ตีเสมอแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่สำหรับแฟนบอลหลายคน ประตูตีเสมอของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ อาจเป็นเพียงการปลอบใจในวันที่ “เดอะ กันเนอร์ส” ควรจะทำได้ดีกว่านี้ และบางที นี่อาจเป็นบทเรียนราคาแพงที่บ่งชี้ว่าฟุตบอลสมัยใหม่นั้นวัดกันที่ “ตัวจริง” ไม่ใช่ “ตัวปิดเกม” (Finishers) อย่างที่ใครบางคนพยายามจะเรียกมัน
เป็นเรื่องจริงที่ 11 ผู้เล่นตัวจริงคือผู้กำหนดทิศทางและชะตากรรมของเกม ชัยชนะส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากซูเปอร์ซับที่ลงมาเปลี่ยนเกมในนาทีสุดท้าย แต่มาจากการวางหมากและคุณภาพของผู้เล่นที่ออกสตาร์ทตั้งแต่ต้น และนี่คือจุดที่อาร์เตต้าถูกตั้งคำถามอย่างหนัก
ในวันที่อาร์เซน่อลมีทีมและขุมกำลังที่แข็งแกร่งกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างชัดเจน การตัดสินใจดร็อปผู้เล่นที่ดีที่สุดอย่าง บูกาโย ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ไว้ข้างสนาม แล้วส่งทีมที่ดูเหมือนจะเน้นความปลอดภัยลงไปก่อน กลายเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ตั้งหลักและเล่นตามแผนที่วางไว้ คือการยิงประตูขึ้นนำจาก เออร์ลิง ฮาลันด์ แล้วถอยไปตั้งรับลึก รอคอยเวลาให้ผ่านไป
กว่าที่อาร์เตต้าจะ “โยนทุกอย่างที่มี” ลงสู่สนามในช่วงครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ได้เข้าสู่โหมดป้องกันเต็มรูปแบบแล้ว การเจาะแนวรับที่อัดแน่นกลายเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ แม้จะตีเสมอได้ในท้ายที่สุด แต่ก็แทบไม่เหลือเวลาให้พลิกกลับมาคว้าชัยชนะ และนี่คือความแตกต่าง
ย้อนกลับไปในเกมเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศปี 1991 เทอร์รี่ เวนาเบิลส์ ผู้จัดการทีมสเปอร์สในขณะนั้น ตัดสินใจส่ง พอล แกสคอยน์ ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ลงเป็นตัวจริงเจออาร์เซน่อล โดยให้เหตุผลว่า “หากรอจนถึงนาทีที่ 60 เกมอาจจะขาดไปแล้ว” ผลลัพธ์คือ แกสคอยน์ใช้เวลาเพียง 10 นาทีในการบันดาลชัยชนะให้กับทีม นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการเดิมพันกับ “ตัวจริง” ที่ดีที่สุด แม้จะมีเวลาจำกัดก็ตาม
แนวคิดเรื่อง “Finishers” อาจใช้ได้ผลในกีฬาอย่างรักบี้ ที่การส่งผู้เล่นตัวใหญ่ลงมาบดขยี้คู่แข่งในช่วงท้ายเกมสามารถสร้างความแตกต่างได้ แต่สำหรับฟุตบอล โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังส่งผู้เล่นที่สร้างสรรค์ที่สุดลงมาเพื่อ “ไล่ตาม” เกม ไม่ใช่ “ปิดเกม” มันคือการยอมรับว่าคุณพลาดโอกาสสำคัญไปแล้วตั้งแต่ต้น
การที่อาร์เตต้าบอกว่า “ถ้าชนะไม่ได้ ก็อย่างน้อยต้องไม่แพ้” อาจเป็นปรัชญาที่ถูกต้อง แต่คำถามที่แท้จริงคือ “ทำไมถึงไม่ชนะ?” ในวันที่พวกเขารอคอยที่จะก้าวข้ามแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มานานหลายปี และในที่สุดก็มีทีมที่ดีกว่า แต่กลับเลือกที่จะเล่นราวกับว่าพวกเขายังเป็นรองอยู่เมื่อ 3 ฤดูกาลก่อน นี่คือสิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดสำหรับแฟนบอลอาร์เซน่อลในเกมนี้ – แทงบอล